เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท วาระ 2 เรียงตามรายมาตรา จำนวน 41 มาตรา ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 67 พิจารณาเสร็จแล้ว เป็นวันสุดท้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อภิปรายในช่วงเย็นเป็นไปอย่างรวดเร็ว แล้วเรียบร้อย โดยเป็นไปตามที่ กมธ.แก้ไข ตั้งแต่มาตรา 32 งบประมาณรายจ่ายของหน่วยงานขององค์กรอิสระและองค์กรอัยการ ที่ กมธ. ปรับลดลงเหลือ 8,848,475,400 บาท จากเดิมที่เสนอเข้ามา 8,473,099,000 บาท มาตรา 33 งบประมาณรายจ่ายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กมธ. ปรับลดลงเหลือ 100,655,847,900 บาท จากเดิมที่เสนอมา 101,003,850,900 บาท มาตรา 34 งบประมาณรายจ่ายของหน่วยงานอื่นของรัฐ จำนวน 282,029,100 บาท ซึ่งไม่มีใครเสนอปรับลด มาตรา 35 งบประมาณรายจ่ายของสภากาชาดไทย จำนวน 8,867,485,700 บาท ซึ่งไม่มีใครเสนอปรับลด มาตรา 36 งบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการในพระองค์ จำนวน 8,478,383,000 บาท ซึ่งไม่มีใครเสนอปรับลด มาตรา 37 งบประมาณรายจ่ายสำหรับแผนงานบูรณาการ ที่ กมธ. ปรับลดลงเหลือ 213,106,725,100 บาท จากเดิมที่เสนอเข้ามา 214,601,711,500 บาท

มาตรา 38 งบประมาณรายจ่ายสำหรับแผนงานบุคลากรภาครัฐ ที่ กมธ. ปรับลดลงเหลือ 785,795,806,000 บาท จากที่เสนอมา  785,957,643,800 บาท มาตรา 40 งบประมาณรายจ่ายสำหรับแผนงานบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ ให้ตั้งเป็นงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณ เป็นจำนวน 346,380,068,300 บาท ซึ่งไม่มีการเสนอปรับลด มาตรา 41 งบประมาณรายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง ให้ตั้งเป็นจำนวน 118,361,130,500 บาท ซึ่งไม่มีการเสนอปรับลด

ต่อมาเวลา 17.45 น. ภายหลังจบการพิจารณาเรียงลำดับ ในวาระ 2 เสร็จสิ้นลง ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ลงมติวาระ 3 ด้วยคะแนน เห็นชอบ 298 ต่อ 166 งดออกเสียง 1 ไม่ลงคะแนนเสียง 1 และเห็นชอบกับข้อสังเกตของ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 

ภายหลังที่ประชุมให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 67 แล้ว นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ได้กล่าวขอบคุณสมาชิก ว่า ตนในฐานะตัวแทนรัฐบาล ขอขอบคุณประธาน และ สส. ทุกคนที่พิจารณาให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 67 ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องมือที่จะใช้ขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติและแผนพัฒนาต่างๆ เพื่อให้ประเทศมีความมั่นคง ประชาชนมีความสุข สร้างความเป็นธรรม และลดความเหลื่อมล้ำ ขับเคลื่อนการเจริญเติบโตเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐ ที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกมิติ

นายกฯ กล่าวต่อว่า สำหรับข้อคิดเห็น รวมถึงคำแนะนำข้อเสนอ และความห่วงใยที่สมาชิกได้เสนอแนะไว้ตลอดระยะเวลาการประชุม รัฐบาลขอรับไว้ด้วยความขอบคุณ และจะนำไปประกอบการพิจารณาปรับปรุงประกอบการพิจารณาของหน่วยรับงบประมาณ เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์จากเงินงบประมาณมากที่สุด นอกจากนั้น ขอขอบคุณกรรมาธิการฯ ทุกคน ที่ให้ความสำคัญเสียสละเวลา และร่วมมือกันในการพัฒนาร่างฯ พ.ร.บ.งบปี 67 ฉบับนี้อย่างเต็มที่ จนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี โดยข้อสังเกตของ กมธ. ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการบริหารราชการ รัฐบาลจะนำไปประกอบการพิจารณาปรับปรุงการดำเนินงาน เพื่อให้การจัดสรรทรัพยากรมีความคุ้มค่า ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

“ผมขอให้ความมั่นใจว่า นโยบายมาตรการ และงบประมาณที่ได้รับการอนุมัติให้นำไปใช้จ่ายในครั้งนี้ จะนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์และแผนงานที่กำหนด โดยรัฐบาลจะกำกับดูแลติดตามการใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าว ให้มีความโปร่งใส และบรรลุผลสัมฤทธิ์ตามนโยบายที่กำหนดไว้ เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อน และยกระดับการขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม คุณภาพชีวิตของประชาชน ควบคู่ไปกับการรักษาสภาพแวดล้อม เพื่อให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี และมีรายได้เพิ่มเพิ่มขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายสูงสุดตามความมุ่งหวังของรัฐบาล และสมาชิก สส. แห่งนี้ทุกท่านต่อไป” นายกฯ กล่าว

จากนั้นนายพิเชษฐ์ ประธานในที่ประชุม ได้สั่งปิดการประชุมในเวลา 17.53 น. รวมเวลาพิจารณาตลอด 3 วัน ใช้เวลาเกือบ 40 ชั่วโมง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับขั้นตอนจากนี้ สภาผู้แทนราษฎร จะส่งร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ที่สภาให้ความเห็นชอบแล้ว จะได้ส่งให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไป ซึ่งทางวุฒิสภาจะพิจารณาร่างฯ ทันที ในวันที่ 26 มี.ค. นี้ เวลา 09.00 น. นี้