จากเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายก่อเหตุป่วนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และในพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา) รวม 45 จุด ก่อเหตุลอบวางเพลิง เผาโกดังเก็บสินค้า สถานประกอบการ ร้านค้าสะดวกซื้อ วางระเบิดเสาไฟฟ้า เสาสัญญาณโทรศัพท์ โปรยตะปูเรือใบ และเผายางรถยนต์ป่วนในพื้นที่ เมื่อช่วงดึกของวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 23 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิด เหตุเกิดที่ร้านวัลภาเมทัลชีท (ร้านค้าขายวัสดุก่อสร้าง) ในพื้นที่ ต.บันนังสาเรง อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ที่กล้องได้บันทึกพฤติกรรมคนร้ายที่ก่อเหตุลอบเผาภายในร้าน โดยคนร้ายประมาณ 6-7 คน แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ สวมหมวกไหมพรม อาวุธครบมือ เดินเข้ามาทางด้านข้างของร้าน จากนั้นได้งัดประตูเข้าไปในร้าน ในช่วงเวลา 01.40 น. ของวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา และทำการราดน้ำมันจุดไฟเผาที่บริเวณพื้นและตัวรถ ทำให้วัสดุภัณฑ์ก่อสร้างหลายรายการและรถกระบะ ได้รับความเสียหาย
ขณะที่ บริษัท สามดาว พาราวู๊ด ในพื้นที่ ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา กล้องวงจรปิดจับภาพได้ในช่วงเวลา 00.45 น. เป็นคนร้ายไม่ต่ำกว่า 7 คน แต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่ เดินเข้ามาในภายในโรงงาน อาวุธครบมือ ปฏิบัติการจับยามและคนงาน จากนั้นได้จุดไฟเผาจนได้รับความเสียหายอย่างหนัก
นอกจากนี้ คลิปจากบริษัท สหพันธ์การไฟฟ้า จำกัด จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า ตั้งอยู่ภายในโรงงานบรรจุเเก๊ส ปตท.ท่าสาป ต.ท่าสาป อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ที่กล้องวงจรปิดได้บันทึกภาพคนร้ายที่ก่อเหตุ ไม่ต่ำกว่า 7 คน เข้ามาภายใน จับคนงานมัดมือ จากนั้นได้งัดประตูเข้าไปภายใน ลอบเผา จนวัสดุอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์เตาแก๊ส และตัวอาคารได้รับความเสียหายอย่างหนักเช่นกัน
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร. และทีมงาน ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมประชุมรับทราบสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สั่งการให้ พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 เร่งติดตามคดี พร้อมทั้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวนสอบสวน ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า (ศชต.) ร่วมกับชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดยะลา และ สภ.ในพื้นที่ ประสานการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ เร่งแกะรอยพฤติกรรมการก่อเหตุของกลุ่มคนร้ายในทุกพื้นที่ของจังหวัดยะลา ทั้ง 12 จุด ซึ่งจุดที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทั้งนี้ จากพฤติกรรมการก่อเหตุของคนร้าย มีการวางแผนและเตรียมการมาเป็นอย่างดี อาศัยช่องว่างในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ก่อเหตุพร้อมกันทั้ง 3 จังหวัดชายแดนใต้ กระจายกำลังก่อเหตุมากกว่า 100 คน
