เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 67 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ในเฟซบุ๊กว่า ราคาข้าวเปลือกนาปรังปีนี้ ถือว่าสูงที่สุดในรอบสิบปีที่ผ่านมา แม้ราคาข้าวสายพันธุ์เวียดนาม (ที่เรียกว่าข้าวเบอร์ 5 หรือ 20 หรือ 80) จะต่ำกว่าข้าวพันธุ์ไทย (ข้าว กข) แต่ถ้าเทียบในระหว่างข้าวสายพันธุ์เดียวกัน ทั้งข้าว กข และข้าวเบอร์ ต่างก็มีราคาสูงกว่าปีที่ผ่านๆ มามาก คิดแล้วราคาขึ้นมาประมาณ 2,000-3,000 บาทต่อตัน

ถ้าราคายืนอยู่ในระดับนี้ไปตลอดฤดูนาปี และนาปรังของปี 2567 ที่จะมีปริมาณผลผลิตข้าวเปลือกออกมาประมาณ 35 ล้านตัน เฉพาะปัจจัยราคาที่เพิ่มขึ้น จะสามารถทำรายได้เพิ่มให้ชาวนาทั้งประเทศได้ราวปีละ 70,000-105,000 ล้านบาท และถ้าสามารถเพิ่มผลผลิตต่อไร่ได้ด้วยนโยบายการปรับค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดินได้ทั่วประเทศ ประกอบกับการปรับสูตรปุ๋ยใหม่ที่ทันสมัยและเฉพาะเจาะจงกับชนิดของข้าว บวกด้วยการเพิ่มพื้นที่ชลประทานและการพัฒนาสายพันธุ์ข้าว รวมทั้งการเปลี่ยนพื้นที่ปลูกข้าวที่ให้ผลผลิตต่ำไปผลิตสินค้าเกษตรที่ใช้น้ำน้อยกว่าข้าว แต่มีตลาดรองรับได้ดีกว่าและสามารถทำรายได้ที่สูงกว่าข้าว ตามแนวนโยบาย “เพิ่มรายได้ภาคการเกษตรเป็น 3 เท่าใน 4 ปี” ก็ถึงเวลาที่ชาวนาและเกษตรกรไทยจะยิ้มได้อย่างมีความสุขตามความมุ่งหวังที่รัฐบาลได้ตั้งเอาไว้อย่างแน่วแน่