เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ครั้งที่ 2/2567 ว่า ที่ประชุมเห็นชอบแนวทางควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2567 คือการสื่อสารเรื่อง “ดื่มแล้วขับ” ขอให้ส่วนราชการดำเนินการตามกฎหมาย โดยเฉพาะพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ต้องไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในงาน ร้านค้าต่างๆ ต้องขายตามเวลาที่กฎหมายกำหนด นอกจากสถานบริการที่ถูกต้องที่จะมีเวลาเพิ่มเติมขึ้นมา แต่ขอให้เคร่งครัด ไม่ใช่เคลื่อนที่ออกมาตั้งขาย ย้ำว่า การห้ามขายแอลกอฮอล์ในพื้นที่เล่นน้ำนั้นเป็นคำสั่ง เป็นกฎหมายที่ต้องดำเนินการ ไม่ใช่การขอความร่วมมือ

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบร่างระเบียบคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ว่า ด้วยการเลือกและการแต่งตั้งที่ปรึกษาคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ พ.ศ. … โดยระเบียบดังกล่าวเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกผู้แทนองค์กรที่เป็นนิติบุคคลและการสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาของคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. … ที่ประชุมมีการรายงานว่า ขณะนี้มี 5 ฉบับเข้าสู่สภา รับร่างไปแล้วทั้งหมด โดยร่างของ สธ.ที่นำเสนอเป็นร่างหลัก มีการตั้งกรรมาธิการ 42 คน จากนี้เป็นเรื่องที่พ้นไปจากกระทรวงสาธารณสุขแล้ว

ด้าน นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในแต่ละจังหวัดจะมีการกำหนดพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ และอาศัย พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ในการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลาห้ามขาย ห้ามขายในสถานที่ห้ามขาย เช่น ตามท้องถนน ซึ่งการจะบังคับใช้เข้มงวดมากน้อยแค่ไหนขึ้นกับฝ่ายปกครองในแต่ละพื้นที่ อย่างบางพื้นที่จัดให้เล่นน้ำบนถนน แต่มีร้านหรือสถานประกอบการตั้งอยู่สองข้างทางถนน แล้วขายแอลกอฮอล์ได้หรือไม่ ก็ต้องเข้าไปตรวจสอบว่า ร้านได้ใบอนุญาตขายอยู่แล้ว ขายในร้านเขา แต่ก็จะขายนอกเวลาไม่ได้ ส่วนที่ห้ามขายในพื้นที่จัดงานจะเป็นกรณีออกมาตั้งเป็นรถเข็น หรือมาตั้งแผงขายอาหารแล้วจะมาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ ส่วนในพื้นที่ห้างที่จัดเล่นน้ำก็เช่นกัน ร้านหรือซุ้มที่มีใบอนุญาตขายอยู่แล้วก็ขายได้ แต่ห้ามขายลักษณะที่ผิดกฎหมาย

“ส่วนการจะห้ามไม่ให้คนที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้างานก็จะเป็นความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่จะต้องเข้มช่วยดูแลตรงนี้ เราขอความร่วมมือไปที่พื้นที่ทำตามมาตรการต่างๆ อย่าง 7 วันอันตรายทุกพื้นที่ก็ต้องทำ เช่น วันที่ 7-11 เม.ย. ซึ่งเป็นช่วงเดินทางเยอะ หรือพื้นที่ไหนจัดก่อนก็ต้องเอามาตรการเหล่านี้มาทำก่อนด้วย ต้องช่วยกันพูด ครอบครัว หากดื่มให้ดื่มที่บ้านอย่าออกไปไหน มีด่านชุมชนตั้งด่านไม่ให้ออกถนนใหญ่ และมีที่ถนนใหญ่ช่วยสกรีนอีก ในการตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่เราเข้มงวดเพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เพราะปีนี้เป็นมหาสงกรานต์ World Festival หากเกิดอาชญากรรมอะไรขึ้นมาจะเสียภาพลักษณ์ เลยพยายามวางแผนให้ดีที่สุด” นพ.ธงชัย กล่าว