นางลิลลี่ เฉิน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้ได้เปิด 5 บริการใหม่ในไตรมาสแรกของปี 2567 ได้แก่ J&T Super การส่งพัสดุที่รวดเร็วและปลอดภัยภายในเวลาที่กำหนด J&T Bulky บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการส่งสินค้าขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่รองรับน้ำหนักสูงสุดได้ถึง 100 กิโลกรัม และมีความยาวพัสดุแต่ละด้านไม่เกิน 200 เซนติเมตร

พร้อมกับ J&T Fruit Parcel บริการขนส่งผลไม้โดยสามารถมั่นใจได้ว่าผลไม้จะถูกส่งถึงที่หมายอย่างรวดเร็วและปลอดภัย J&T COD Next Day บริการเก็บเงินปลายทางสำหรับลูกค้า Walk-in ด้วยค่าบริการราคาพิเศษ 2.4% ของมูลค่าสินค้า โดยไม่มีขั้นต่ำในการส่งพัสดุ และ J&T Fulfillment บริการคลังสินค้าและขนส่งสินค้าในรูปแบบ B2B และ B2C ตั้งอยู่ใกล้ศูนย์คัดแยกและกระจายสินค้าของ เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส เพื่อช่วยลดระยะเวลาการเข้ารับพัสดุ สามารถจัดการเฉลี่ย 150,000 คำสั่งซื้อต่อวัน 

“ความท้าทายสำหรับธุรกิจขนส่งพัสดุในปีนี้ยังคงเป็นเรื่องราคา และประสิทธิภาพการขนส่งที่รวดเร็ว ทำให้ลูกค้าเกิดการเปรียบเทียบราคา และการบริการร่วมด้วย ทำให้บริษัทหันมาเน้นเรื่องประสิทธิภาพการให้บริการเป็นหลัก ปีนี้ตั้งเป้าหมายขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของกลุ่มบริษัทขนส่งเอกชน ทั้งในด้านประสิทธิภาพและยอดพัสดุในการขนส่ง จากบริการทั้งหมด 10 กลุ่ม โดยที่ 5 บริการใหม่ที่เพิ่มเข้ามาครั้งนี้ คาดว่าจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายการขนส่งให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

อย่างไรก็ตาม ปี 66 บริษัทมีระยะเวลาการจัดส่งถึงมือผู้รับเร็วยิ่งขึ้น 10% ยอดพัสดุเติบโตมากขึ้นกว่า 50% จากปัจจุบันมีระยะเวลาการจัดส่งถึงมือผู้รับเร็วยิ่งขึ้น 70%, ยอดพัสดุปีนี้เติบโตมากขึ้น 80% จากบริการทั้งหมด 5 ประเภท คือ บริการจัดส่งพัสดุด่วน การจัดการคลังสินค้า การขนส่งพัสดุระหว่างประเทศ บริการทรานสปอร์ต J&T Home โดยทั้งหมดเป็นการให้บริการแบบ one-stop service ตลอด 365 วัน สายด่วน 24 ชั่วโมง และการบริการลูกค้า VIP แบบ one on one จากปัจจุบันดร็อปพ้อยท์มีทั้งหมด 30,000 จุด ครอบคลุมทั่วประเทศ แบ่งเป็น กทม. 70% และต่างจังหวัด 30% และมีแผนร่วมมือกับพันธมิตรที่ขยายจุดดร็อปพ้อยท์เพิ่มในปีนี้