เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 นายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม นายภิญโญ โฆสิต ผอ.ป.ป.ส.ภาค 4 พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน รองผบช.ภ.4 พล.ต.ฉัฐชัย มีชั้นช่วง ผบ.มทบ.210 น.อ.วรรณะ เกื้อทิพย์ ผบ.นรข.เขตนครพนม พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นจับกุมยาเสพติดตามยุทธการการไล่ล่า (เด็ดปีก) นักค้าอีสานเหนือ 252 “No place for Drug” ระยะที่ 2 ทำลายโครงสร้าง ชำระสะสาง ปลุกพลังชุมชนเข้มแข็ง โดยปราบปรามนักค้ารายย่อย และเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ ด้วยการปฏิบัติเชิงรุกทั้ง 19 สภ.ในสังกัด พร้อมกันมีการปิดล้อมตรวจค้นจับกลุ่มบุคคลตามหมายจับคดียาเสพติด ค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ตรวจค้นจับกุมบุคคลเป้าหมายตามเบาะแสข้อร้องเรียนภาคประชาชน จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่า รวมถึงการยึดทรัพย์นักค้ายาเสพติดทุกราย โดยมีผลการปฏิบัติงานตั้งแต่ 1 ม.ค. 67-31 มี.ค. 67

สำหรับการสำหรับปฏิบัติการไล่ล่า (เด็ดปีก) นักค้าอีสานเหนือ 252 : No Place for Drug ระยะที่ 2 ในช่วง 1-3 เม.ย. 67 ซึ่งตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ร่วมกับ สำนักงาน ปปส.ภาค 4 นบ.ยส.24 จังหวัดนครพนม
ได้ประชุมหารือเป้าหมายในการดำเนินการ 86 เป้าหมาย โดยขออนุมัติศาลจังหวัตนครพนม ขอออกหมายค้น 18 หมายคัน หมายจับจากการขยายผลเพื่อจับกลุ่มนักค้า 5 หมาย และดำเนินการเข้าคันโดยใช้บัตร ปปส. 64 เป้าหมาย โดยมีผลการปฏิบัติ ดังนี้ จับกุม นักค้า 12 ราย ผู้เสพ 51 ราย คดีครอบครอง 9 ราย คดีครอบครองเพื่อเสพ 3 ราย คดีอาวุธปืน 11 ราย ตรวจยึดของกลาง 28 รายการ (ภาพรวม) ยาบ้า 1,704 เม็ด , รถจักรยานยนต์ 2 คัน มูลค่า 50,000 บาท , อาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนปืน 15 กระบอก มูลค่า 55,000 บาท , โทรศัพท์มือถือ 11 เครื่อง มูลค่า 19,500 บาท รวมทรัพย์สินที่ยึดได้ 28 รายการ รวมมูลค่า 124,500 บาท ในการตามข้อมูลร้องเรียน สายด่วน 1386 ได้ 3 ราย ได้ในพื้นที่ สภ.ศรีสงคราม, สภ.เมือง และ สภ.หลักศิลา ส่วนเป้าหมายอื่นๆ ตามเรื่องร้องเรียน ไปยัง ปปส.ภาค 4 นั้น ตรวจสอบบุคคลตามที่แจ้ง ไม่พบว่าอยู่ในบ้านเลขที่ดังกล่าว เป้าหมายไม่มีที่อยู่ที่ชัดเจน ยังไม่สามารถพบตัว ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมจะดำเนินการติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดตามข้อ ร้องเรียน สายด่วน 1386 มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผลการปฏิบัติตั้งแต่ห้วงวันที่ 1 ม.ค. 67-31 มี.ค. 67 มีผลการปฏิบัติดังนี้ จับกุมผู้ต้องหา 986 ราย ตรวจยึดของกลางยาเสพติด ได้แก่ ยาบ้า 1,503,626 เม็ด, ยาไอซ์ 2,500 กรัม, เฮโรอีน 9,800 กรัม ตรวจยึดทรัพย์สินตาม พรบ.มาตราการฯ ได้แก่ เงินสด 561,547 บาท, อาวุธปืน 16 กระบอก, บ้าน 1 หลัง, ที่ดินตามโฉนด 2 แปลง เนื้อที่ 7 ไร่ 3 งาน, ทองรูปพรรณ น้ำหนักรวม 12 บาท, รถยนต์ 16 คัน, รถจักรยานยนต์ 21 คัน ทรัพย์สินอื่นๆ 18 รายการ มูลคำประมาณ 103,900 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึด/อายัด 8,673,947 บาท

พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 เปิดเผยว่า ปฏิบัติการ ไล่ล่า (เด็ดปีก) นักค้าอีสานเหนือ 252 “No place for Drug” ระยะที่ 2 เป็นการกว่าดล้างจับกุมนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ตามแนวชายแดน และเป็นพื้นที่มีปัญหา ซึ่งเป็นไปตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร. โดยตนได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดตำรวจภาค 4 เพิ่มความเข้มในการกวาดล้างจับกุมยาเสพติด โดยเฉพาะผู้ค้ายาเสพติตรายย่อย จะต้องไม่มีที่ยืนในพื้นที่อีกต่อไป

สำหรับผลการปราบปรามยาเสพติดของตำรวจภาค 4 ตั้งแต่ 1 ต.ค. 66 – 31 มีค. 67 ได้กวาดล้างจับกุมผู้ต้องหายาเสพติด 22,287 คดี ผู้ต้องหา 22,387 คน ตรวจยืดยาบ้ากว่า 17 ล้านเม็ด เฮโรอีนกว่า 59 กก. ไอซ์ กว่า 6.8 กิโลกรัม ตรวจยึด/อายัดทรัพย์สินฯ 4,199 รายการ มูลค่าประมาณ 339,750,071 บาท โดยตำรวจภาค 4 จะกวาดล้างจับกุมอย่างเด็ดขาดต่อไป.