เมื่อวันที่ 5 เม.ย. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย (มท.) เปิดเผยถึงกรณีที่จ.สมุทรสาคร โดยสำนักงานอุตสาหกรรม จ.สมุทรสาคร พบว่ามีกากแคดเมียม และกากสังกะสี จำนวนมากอยู่ในพื้นที่โรงงาน บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด ตั้งอยู่ที่ ต.บางน้ำจืด อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย  ได้รับรายงานจาก นายผล ดำธรรม  ผวจ.สมุทรสาคร หลังจากการลงพื้นที่พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบบริษัทดังกล่าว ทราบข้อเท็จจริงว่า บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการโรงงานถูกต้องตามกฎหมาย มีทั้งสิ้น 3 ใบอนุญาต โดยทั้งหมดประกอบกิจการหล่อและหลอมโลหะประเภทต่างๆ จากการตรวจสอบโรงงานแห่งที่ 1 ตั้งอยู่เลขที่ 132 หมู่ที่ 2 พบกากแคดเมียมและกากสังกะสีบรรจุอยู่ในถุงบิ๊กแบ็กสีขาวจำนวนประมาณ 1,300 ถุง และพบอยู่ภายนอกโรงงานอีก 100 ถุง เจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้ประกอบการเคลื่อนย้ายกากแคดเมียมที่อยู่ภายนอกเข้าไปในโรงงานโดยเร็วที่สุด ในส่วนโรงงานแห่งที่ 2 ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับโรงงานแห่งที่ 1 พบกากอะลูมิเนียมอยู่ภายในโรงงาน และมีกากแคดเมียมและกากสังกะสี จำนวน 9 ถุง เจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้ประกอบการเคลื่อนย้ายกากแคดเมียมและกากสังกะสีดังกล่าวไปเก็บไว้ที่โรงงานแห่งที่ 1 โดยด่วน ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจสอบโรงงานแห่งที่ 3 ตั้งอยู่เลขที่ 136/2 หมู่ที่ 2 พบกากแคดเมียมและกากสังกะสีอีก 227 ถุง อยู่ภายในโรงงาน

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในขณะนี้ ผวจ.สมุทรสาคร ในฐานะ ผอ.กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สมุทรสาคร ได้ลงนามประกาศกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 67 ห้ามมิให้บุคคลใดๆ เข้าไปอยู่อาศัยหรือดำเนินกิจการใดในพื้นที่โรงงาน บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการควบคุมและตรวจสอบ พร้อมดำเนินการตามมาตรการทางความปลอดภัยในบริเวณดังกล่าวต่อไป เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อประชาชนในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียง ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบจากสารแคดเมียมในบริเวณดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมมลพิษ สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 5 และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.สมุทรสาคร ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ มีความเห็นว่ากากแคดเมียมและกากสังกะสีดังกล่าวอาจจะผสมด้วยปอร์ตแลนด์ซีเมนต์ 30% เพื่อทำลายฤทธิ์ ปัจจุบันอยู่ในสถานะแข็งตัวและเสถียร หากเก็บไว้ในสถานที่มิดชิดและไม่มีการชำระล้าง จะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

“อย่างไรก็ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์ว่า ทางกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สมุทรสาคร ได้มีการประกาศเขตภัยพิบัติฉุกเฉิน หรือประกาศพื้นที่ประสบสาธารณภัย ขอเรียนว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ขณะนี้ทางจังหวัดสมุทรสาครได้มีเพียงประกาศห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปอยู่อาศัยหรือดำเนินกิจการใดในพื้นที่โรงงาน บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 132 และ 136/2 หมู่ที่ 2 ซอยกองพนันพล ถนนเอกชัย ต.บางน้ำจืด อ.เมืองสมุทรสาคร เป็นระยะเวลา 90 วัน นับแต่วันประกาศเป็นต้นไป เท่านั้น” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวเน้นย้ำว่า ขอยืนยันว่า ทางกระทรวงมหาดไทย โดย จ.สมุทรสาคร ภายใต้การนำของ ผวจ.สมุทรสาคร พร้อมด้วย ร.ต.ต.สัณฐิติ ธรรมใจ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สมุทรสาคร อุตสาหกรรม จ.สมุทรสาคร สาธารณสุข จ.สมุทรสาคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด และดำเนินการสืบสวนว่าการกระทำนี้เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายหรือไม่ หากพบมีการกระทำความผิดทาง จ.สมุทรสาคร จะดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและร่างกายของประชาชน ขอให้ปฏิบัติตามประกาศดังกล่าวอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์ในพื้นที่เกิดเหตุอย่างใกล้ชิด และรับฟังข่าวสารที่เป็นความจริงเท่านั้น หากมีความคืบหน้าทางกระทรวงมหาดไทยและ จ.สมุทรสาคร จะเร่งแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบต่อไป.