เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวบุกรวบสาวแสบสแกนหน้าตัวเองเปิดซิมผีออนไลน์กว่า 1 หมื่นเลขหมาย ส่งขายตลาดมืด

สืบเนื่องจากตำรวจไซเบอร์พบเบาะแสการกระทำผิดเกี่ยวกับการเปิดซิมผีที่ใช้บุคคลใบหน้าเดียวกันนับหมื่นเลขหมาย จึงได้ประสานงาน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กสทช. และเครือข่ายผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ร่วมกันตรวจสอบพบว่า มีบุคคลใช้ใบหน้าเดียวกันในการ KYC เพื่อลงทะเบียนซิม จำนวน 13,060 เลขหมาย อีกทั้งบุคคลดังกล่าวยังใช้ภาพถ่ายเดียวกันบนหน้าบัตรประชาชน แต่ใช้บัตรประชาชนในการ KYC ต่างกันกว่า 3,350 ใบ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนทราบว่า ขบวนการดังกล่าวมี ผู้ว่าจ้างให้ลงทะเบียนซิม, ผู้จัดหาภาพบัตรประชาชน และ ผู้ที่ตัดต่อภาพบัตรประชาชนเพื่อทำการลงทะเบียนซิม โดยได้รับผลประโยชน์จากการจัดหาภาพบัตรประชาชนในราคาภาพละ 5 บาท และลงทะเบียนซิมในราคาหมายเลขละ 5 บาท เพื่อนำออกขายตลาดมืดในราคาเบอร์ละ 100-200 บาท สำหรับเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพ, แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือ เว็บพนันออนไลน์ต่อไป

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมหลักฐาน ขออำนาจศาลออกหมายจับพร้อมจับกุมตัวผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องรวม 3 รายได้แก่ น.ส.อุทัยทิพย์ จอกแก้ว อายุ 26 ปี ผู้ใช้ใบหน้าตนเองทำการ KYC ทั้ง 13,060 ซิม, น.ส.ศิริลักษณ์ ยู อายุ 26 ปี ผู้ว่าจ้างให้ลงทะเบียนซิม และ น.ส.รัชวรรณสรณ์ แสนหัวเมือ อายุ 25 ปี ผู้จัดหาและส่งบัตรประจำตัวประชาชน โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันปลอม และใช้เอกสารราชการปลอม , โดยทุจริต หรือ โดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญา , ปลอมและใช้บัตรประชาชน หรือแสดงบัตรประชาชนปลอม” นำตัวส่งดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมเตรียมขยายผลถึงแหล่งรับซื้อ แหล่งจำหน่าย รวมทั้งผู้ใช้ประโยชน์จากซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือดังกล่าว เพื่อนำตัวทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.