สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ว่า นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำมาเลเซีย กล่าวถึงการที่กองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน (ไออาร์จีซี) ยิงขีปนาวุธและโดรนใส่อิสราเอล เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา “เป็นการแสดงออกที่ชอบธรรม” เนื่องจากเป็นการตอบโต้ ที่อิสราเอลโจมตีสถานเอกอัครราชทูตอิหร่านในซีเรีย และส่งผลให้เจ้าหน้าที่ไออาร์จีซี เสียชีวิต 7 นาย เมื่อวันที่ 1 เม.ย.


ขณะเดียวกัน ผู้นำมาเลเซียกล่าวว่า “อิสราเอลไม่ควรตอบโต้” เพื่อไม่ให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางตึงเครียดมากไปกว่านี้
อนึ่ง มาเลเซียเป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ กับองค์กรฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส

อันวาร์ย้ำระหว่างการเยือนเยอรมนี เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ว่าการมีความสัมพันธ์กับฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส “ไม่ใช่เรื่องที่รัฐบาลมาเลเซียต้องขอโทษ” และกล่าวถึงสงครามในฉนวนกาซา ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 5 เดือนแล้ว ว่าวันที่ 7 ต.ค. 2566 ไม่ใช่จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของทุกอย่าง เนื่องจากความโหดร้ายทั้งหมดที่มีต่อชาวปาเลสไตน์ เกิดขึ้นมานานหลายทศวรรษแล้ว


ทั้งนี้ มาเลเซียไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล และมีจุดยืนชัดเจนเช่นเดียวกับประเทศมุสลิมทุกแห่งบนโลก รวมถึงประเทศร่วมภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือ อินโดนีเซีย และบรูไน ในการสนับสนุนหลักการสองรัฐ และนโยบายทุกด้านของรัฐบาลปาเลสไตน์


อนึ่ง สมาชิกระดับสูงหลายคนของกลุ่มฮามาส เคยเยือนมาเลเซีย รวมถึงนายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำสูงสุดฝ่ายการเมือง และเข้าพบหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลกัวลาลัมเปอร์ รวมถึงนายกรัฐมนตรีด้วย.

เครดิตภาพ : AFP