สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ว่า รัฐสภาสวีเดน มีมติ 234 ต่อ 94 เห็นชอบผ่านกฎหมายดังกล่าว

แม้สวีเดน เป็นประเทศแรกที่นำเสนอการแปลงเพศตามกฎหมาย เมื่อปี 2515 แต่ข้อเสนอซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่ออนุญาต “การระบุตัวตน” และทำให้ขั้นตอนต่าง ๆ ดำเนินการได้ง่ายขึ้น กลับจุดชนวนการถกเถียงอย่างดุเดือดในประเทศ และส่งผลกระทบต่อจุดยืนของนายกรัฐมนตรี อูลฟ์ คริสเตอร์สสัน ผู้นำสวีเดน หลังประเด็นข้างต้นทำให้เขาตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากสมาชิกพรรครัฐบาล

“ชาวสวีเดนส่วนใหญ่ไม่เคยรู้ว่า กฎหมายนี้มีการเปลี่ยนแปลง แต่สำหรับคนข้ามเพศจำนวนหนึ่ง กฎหมายใหม่สร้างความแตกต่างขนานใหญ่และสำคัญ” นายโยฮัน ฮัลท์เบิร์ก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่เป็นตัวแทนของพรรคกลาง กล่าวต่อรัฐสภาสวีเดน

นอกจากการลดอายุขั้นต่ำสำหรับการแปลงเพศ กฎหมายใหม่ยังมีเป้าหมายทำให้บุคคลสามารถเปลี่ยนเพศตามกฎหมายได้ง่ายขึ้นด้วย จากเดิมที่กระบวนการอาจใช้เวลานานถึง 7 ปี

ทั้งนี้ กฎหมายใหม่ทั้งสองฉบับ ได้แก่ กฎหมายควบคุมขั้นตอนการผ่าตัดแปลงเพศ และกฎหมายควบคุมขั้นตอนการดำเนินการ ในการเปลี่ยนเพศตามกฎหมาย ในทะเบียนอย่างเป็นทางการ จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ค. 2568

แม้เยาวชนชาวสวีเดน จะสามารถเปลี่ยนเพศตามกฎหมายได้ตั้งแต่อายุ 16 ปี แต่ตราบใดที่พวกเขายังมีอายุต่ำกว่า 18 ปี พวกเขาจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากครอบครัว แพทย์ และคณะกรรมการสุขภาพและสวัสดิภาพแห่งชาติ อีกทั้งการผ่าตัดเอารังไข่หรืออัณฑะออกนั้น จะได้รับอนุญาตเมื่อพวกเขามีอายุ 23 ปีขึ้นไป ตามกฎหมายเดิม

กระนั้น ผลการสำรวจที่เผยแพร่ในสัปดาห์นี้ แสดงให้เห็นว่า ชาวสวีเดนเกือบ 60% ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว และมีผู้สนับสนุนเพียง 22% เท่านั้น ซึ่งนักวิจารณ์บางคนแสดงความกังวลต่อประเด็นข้างต้น และกลัวว่าการทำให้ขั้นตอนเปลี่ยนเพศง่ายขึ้น อาจสร้างความสับสนให้กับเยาวชนได้.

เครดิตภาพ : AFP