สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย เมื่อวันที่ 24 เม.ย. โดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวในองค์กรสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรีย (เอสโอเอชอาร์) และแหล่งข่าวในกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ว่าอิหร่านถอนทหารและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ออกจากภูมิภาคหลายแห่งทางตอนใต้ของซีเรีย รวมถึงจังหวัดกูเนตรา และจังหวัดดารา ซึ่งอยู่ใกล้กับที่ราบสูงโกลัน พื้นที่พิพาทยืดเยื้อระหว่างซีเรียกับอิสราเอล


นอกจากนี้ อิหร่านถอนทหารออกจากกรุงดามัสกัสด้วย โดยให้กองกำลังนักรบท้องถิ่นเข้าไปประจำการแทน อย่างไรก็ตาม ยังคงมีทหารอิหร่านประจำการอยู่ในพื้นที่แห่งอื่นของซีเรีย


ด้านรัฐบาลเตหะรานปฏิเสธให้ความเห็นอย่างเป็นทางการต่อรายงานดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องของอิหร่านยืนกรานมาตลอด ว่าไม่เคยประจำการทหารในซีเรีย ความสนับสนุนทางทหารซึ่งมอบให้แก่รัฐบาลดามัสกัส “เป็นเพียงการฝึกสอนทางทหารเท่านั้น”


กระนั้น เอสโอเอชอาร์ยังคงยืนยันข้อมูลของตัวเอง ว่าอิหร่านมีทหารในซีเรียประมาณ 3,000 นาย แล้วยังได้รับความสนับสนุนจากกองกำลังนักรบพันธมิตรอีกหลายกลุ่ม ซึ่งเดินทางมาจากอิรัก เลบานอน และอัฟกานิสถาน และ “ที่ปรึกษาทางทหาร” ของอิหร่าน ทยอยเดินทางออกจากซีเรียอย่างต่อเนื่อง ในรอบระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา แต่ยังคงมีการปักหลักอยู่ที่จังหวัดอเลปโปที่อยู่ทางเหนือ และจังหวัดเดอีร์-เอส-ซอร์ ที่อยู่ทางตะวันออก ซึ่งสหรัฐประจำการ “ที่ปรึกษาทางทหาร” เอาไว้เช่นกัน


ความเคลื่อนไหวของอิหร่านในเรื่องนี้เกิดขึ้น ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดกับอิสราเอล ที่ส่งผลให้อิหร่านโจมตีโดยตรงต่ออิสราเอลเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมา ตอบโต้เหตุการณ์สถานเอกอัครราชทูตอิหร่านในกรุงดามัสกัสถูกโจมตี คร่าชีวิตทหารอิหร่าน 7 นาย เมื่อวันที่ 1 เม.ย. และหลังจากนั้น 6 วัน คือวันที่ 19 เม.ย. อิสราเอลโจมตีตอบโต้อิหร่าน.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES