สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 29 เม.ย. โดยอ้างข้อมูลจากสื่อท้องถิ่นหลายแห่งของมาเลเซีย ว่าบริษัทคิวเอสอาร์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการแฟรนไชส์ของเคเอฟซี หนึ่งในเครือร้านฟาสต์ฟู้ดรายใหญ่ที่สุดของโลกจากสหรัฐ เตรียมปิดกิจการร้านเคเอฟซีอย่างน้อย 108 แห่งในประเทศ จากทั้งหมดที่มีอยู่มากกว่า 600 สาขา เนื่องจากกระแสต่อต้าน ซึ่งเป็นผลจากความรุนแรงของสงครามในฉนวนกาซา ระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 2566

https://twitter.com/STForeignDesk/status/1784830499388862944


แม้คิวเอสอาร์ยังปฏิเสธให้ความเห็นอย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับรายงานที่ออกมา แต่ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้น หลังแมคโดนัลด์ มาเลเซีย ยื่นคำร้องต่อศาล เมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจาก “บีดีเอส มาเลเซีย” ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรอิสระทางการเมืองของมาเลเซีย ที่มีจุดยืนสนับสนุนปาเลสไตน์ เป็นเงินทั้งสิ้น 6 ล้านริงกิต (ราว 46.6 ล้านบาท) เพื่อรักษาสิทธิและพิทักษ์ผลประโยชน์ขององค์กร


ทั้งนี้ บีดีเอส มาเลเซีย เรียกร้องชาวมาเลเซียร่วมกันบอยคอตแมคโดนัลด์ เคเอฟซี และแบรนด์สินค้าตะวันตกอีกหลายรายการ โดยให้เหตุผลว่า บริษัทเหล่านั้นสนับสนุนอิสราเอล ซึ่งแมคโดนัลด์ มาเลเซีย โต้แย้งว่า เคารพและเข้าใจการตัดสินใจ ที่จะใช้มาตรการบอยคอตหรือต่อต้าน “เป็นวิจารณญาณส่วนบุคคล” แต่ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง และไม่ใช่การเชื่อ “ข้อมูลบิดเบือน”.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES