นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และโฆษก ขบ. เปิดเผยว่า ขอแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจเดินทางและต้องการขับรถยนต์ในต่างประเทศ สามารถเข้ารับบริการทำใบขับขี่สากลที่ถูกต้องตามกฎหมายและเป็นไปตามภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการจราจรทางถนน โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ตามอนุสัญญา 2 ฉบับ นั่นคือ “อนุสัญญาเจนีวา 1949” และ “อนุสัญญาเวียนนา 1968” โดยรายละเอียดของอนุสัญญาดังกล่าวมีดังนี้  

อนุสัญญาว่าด้วยการจราจรทางถนน ณ นครเจนีวา ค.ศ. 1949 หรือ อนุสัญญาเจนีวา 1949 มีอายุ 1 ปี นำไปใช้ได้ใน 102 ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย เกาหลีใต้  นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น เป็นต้น อนุสัญญาว่าด้วยการจราจรทางถนน ณ กรุงเวียนนา ค.ศ. 1968 หรือ อนุสัญญาเวียนนา 1968 มีอายุ 3 ปี นับแต่วันออกใบขับขี่สากล หรือเท่ากับอายุของใบขับขี่ภายในประเทศที่ผู้ถือมีอยู่ นำไปใช้ได้ 86 ประเทศ เช่น บาห์เรน บราซิล เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้น สำหรับประเทศที่เข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาทั้งสองฉบับ เช่น สหราชอาณาจักร อิตาลี ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ สวีเดน รวมถึงประเทศไทยสามารถใช้ใบขับขี่สากลที่ออกตามอนุสัญญาเวียนนา 1968 เพียงฉบับเดียวได้

นายเสกสม กล่าวต่อว่า ผู้สนใจทำใบขับขี่สากลสามารถเตรียมเอกสารหลักฐานดังนี้ หลักฐานที่ต้องใช้ในการขอรับใบขับขี่สากล (กรณีคนไทย) 1.หนังสือเดินทาง (ฉบับจริง) ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ 2.บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง) ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ 3.ใบขับขี่ไทย (5 ปี, ตลอดชีพ, ขนส่ง) (ฉบับจริง) ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ 4.รูปถ่าย ขนาด 2 นิ้ว 2 รูป ไม่เคลือบมัน (รูปถ่ายไม่เกิน 6 เดือน) หลักฐานที่ต้องใช้ในการขอรับใบขับขี่สากล (กรณีคนต่างชาติ) 1.หนังสือเดินทางและวีซ่า (ต้องไม่ใช่เพื่อการท่องเที่ยว เล่นกีฬา หรือเดินทางผ่านเมือง) (ฉบับจริงพร้อมสำเนา) 2.ใบสำคัญถิ่นที่อยู่ ที่รับรองโดยสถานทูต หรือสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ฉบับจริง) หรือใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) หรือใบอนุญาตทำงานอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Work Permit) ที่แสดงรายละเอียดที่อยู่ และยังไม่สิ้นอายุ หรือหลักฐานที่แสดงว่าเป็นผู้ได้รับการตรวจลงตราพิเศษ (Smart Visa) ที่รับรองโดยสถานทูต หรือสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือหน่วยงานภาครัฐ หรือองค์กรระหว่างประเทศออกให้ (ฉบับจริงพร้อมสำเนา) 3.ใบขับขี่ไทย (5 ปี หรือ ตลอดชีพ) (ฉบับจริงพร้อมสำเนา) ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ 4.รูปถ่าย ขนาด 2 นิ้ว 2 รูป ไม่เคลือบมัน (รูปถ่ายไม่เกิน 6 เดือน)

กรณีการทำใบขับขี่สากลสามารถมอบอำนาจได้ โดยเตรียมหลักฐานเพิ่มเติม ได้แก่ 1.ใบมอบอำนาจ 2.บัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบอำนาจ (ฉบับจริงพร้อมสำเนา) 3.หลักฐานของผู้มอบอำนาจที่จะใช้ในการขอรับใบขับขี่สากล (สำเนาพร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง) สำหรับผู้ที่ต้องการขอรับใบขับขี่สากลสามารถเข้ารับบริการ ณ สำนักงานขนส่ง ได้โดยไม่ต้องจองคิวล่วงหน้า (walk in) หรือจองคิวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue และแจ้งรายชื่อประเทศที่ต้องการนำใบขับขี่สากลไปใช้ต่อเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบความเกี่ยวข้องในการร่วมเป็นภาคีตามอนุสัญญา หรือสามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเองที่ https://apps.dlt.go.th/ltpcenter/ ใบขับขี่สากลตามอนุสัญญาทั้ง 2 ฉบับ มีค่าธรรมเนียมพร้อมค่าคำขอรวม 505 บาทเท่ากัน ทั้งนี้ใบขับขี่สากลตามอนุสัญญาเวียนนา 1968 ต้องใช้ควบคู่กับใบขับขี่ของไทยแบบบัตรพลาสติกที่มีข้อความภาษาอังกฤษกำกับด้วย