น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยถึงกรณีนายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดใจกับสื่อมวลชนถึงเหตุผลการลาออกว่า เกิดจากความกดดันว่า จนถึงขณะนี้ตนยังไม่ได้รับรายงานเรื่องลาออก ส่วนอธิบดีกรมโรงงานฯ ตนก็พบล่าสุดที่ จ.ระยอง หลังจากนั้นก็ยังไม่ได้รับการติดต่อใด ๆ ส่วนที่ว่าท่านลาออกเพราะเกิดความน้อยใจ และความกดดันนั้น ถ้าติดตามข่าวอย่างละเอียดจะเห็นว่า ตนได้ให้กำลังใจคนทำงานมาตลอด และไม่ได้ระบุว่าเป็น ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม หรือ อธิบดีกรมโรงงานฯ แต่บอกว่า ทุกคนต้องทำงานอย่างเต็มที่ เพราะ 1 เดือนที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรมเจอภาวะวิกฤติในหลายด้าน และในทุกปัญหากระทบต่อพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมาก มันกดดันให้เราต้องทำงานอย่างเต็มที่ 

“จะมาบอกว่าน้อยใจหรือเสียกำลังใจไม่ได้ เพราะเราต้องทำงาน เป็นข้าราชการต้องทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ตัวรัฐมนตรีเองก็ต้องทำงาน ถ้าไม่มีผลงานก็ต้องพร้อมที่จะแสดงความรับผิดชอบ ไม่ได้บอกว่าจะปรับเปลี่ยนใคร แต่ถ้าเมื่อไรที่ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้รับการแก้ไข ไม่ได้ทำตามหน้าที่ สังคมก็จะต้องตั้งคำถาม ตัวดิฉันเองก็ไม่สามารถหนีความรับผิดชอบได้ เราต้องร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ ไม่มีเวลามานั่งท้อหรือเสียใจ และเมื่อเกิดวิกฤติ เราควรใช้โอกาสนั้นแสดงฝีมือให้ประชาชนเห็นว่า เราช่วยประชาชนได้ และที่สำคัญ ประตูห้องทำงานรัฐมนตรีก็เปิดตลอด มีปัญหาอะไรก็มาคุยกันได้” รมว.อุตสาหกรรม กล่าว 

ส่วนความคืบหน้าไฟไหมโรงงานสารเคมี ที่ อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ตนได้กำชับไปแล้วว่าต้องควบคุมเพลิงให้ได้ และเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำเป็นครั้งที่ 3 ในเวลาไล่เลี่ยกัน และบ่ายวันที่ 2 พ.ค. ตนก็จะลงไปดูหน้างาน ด้วยตัวเอง