เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ที่กองทัพอากาศ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ยังดูแลกองทัพต่อหลังมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ท่านไม่ได้สั่งกำชับอะไรเพิ่มเติม ท่านเป็นผู้บังคับบัญชา ที่เราปฏิบัติตามแนวทางและนโยบายของท่านมาโดยตลอด ถือว่าได้ทำงานต่อเนื่องกันต่อไป สำหรับการจัดซื้อเครื่องบินรบฝูงใหม่ จำนวน 4 เครื่อง วงเงิน 19,000 ล้านบาท งบผูกพัน 4 ปี ได้ถูกบรรจุในงบประมาณ 2568 ไปเรียบร้อยแล้ว และผ่านการอนุมัติของ ครม.แล้ว อยู่ระหว่างการดำเนินการในขั้นตอนต่อไป 

ผบ.ทอ.กล่าวต่อว่า ส่วนการเลือกแบบอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการ แต่เชื่อว่าประมาณกลางเดือน มิ.ย. จะมีความชัดเจน โดยในเดือน พ.ค. จะทำเวิร์กช็อป ของเครื่องบินทั้ง 2 แบบ (กริพเพน สวีเดน และ ตระกูล F ของสหรัฐ) ซึ่งจะต้องทำด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง เพราะถือเป็นโอกาสเดียวในการจัดหาซึ่งใช้งบประมาณค่อนข้างสูง เพื่อให้ได้ของที่ดีที่สุด

เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่เพราะมีตัวอย่างกรณีจัดซื้อเรือฟริเกตของกองทัพเรือ ที่ถูกตีตก ในชั้นคณะกรรมาธิการปี 2567 พล.อ.อ.พันธ์ภักดี กล่าวว่า กองทัพอากาศมีเหตุผล และความจำเป็นที่ได้ชี้แจง เมื่อ 3 ปีที่แล้ว และมีการขยับการจัดซื้อจัดหา และหากมีเหตุผลที่จำเป็นมากกว่า เราก็ต้องยอมรับ แต่ในส่วนของความมั่นคง เราต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในการที่จะปกป้องงบประมาณที่จะมาดูแลในการทำหน้าที่ตามบทบาท ความรับผิดชอบของกองทัพอากาศ

พล.อ.อ.พันธ์ภักดี  กล่าวต่อว่า ถ้าหากดูตามไทม์ไลน์ เราจัดหาในปี 2568 ซึ่งอาจจะช้าไปแล้วด้วย 4+4+4 รวม 12 เครื่อง ครบ 1 ฝูง กว่าจะเรียบร้อยเข้ามาประจำการอาจใช้เวลานาน หลังปี 2572 เป็นต้นไปจะต้องทยอยเอาเครื่องบินรบเข้าประจำการในกองบิน 1 ซึ่ง 4 เครื่องแรก ที่จะจัดซื้อในปีงบประมาณ 2568 ยังรับประกันไม่ได้ว่า จะเข้าประจำการภายในปี 2572 เพราะว่าต้องมีการฝึก การรับเครื่องบิน รวมถึงการฝึกพร้อมรบ เพื่อให้นักบินพร้อมปฏิบัติภารกิจ อย่างน้อยที่สุด หากเราได้จัดหาเครื่องบินมาภายในปี 2568 ปลายปี 2572 อาจทำให้กองทัพอากาศมีความพร้อมรบได้ในระดับหนึ่ง

เมื่อถามว่าฝ่ายการเมืองจะมีความเข้าใจ ฝ่ายค้านและตัวของ รมว.กลาโหม ถึงความจำเป็นของกองทัพอากาศใช่หรือไม่ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี กล่าวว่า ท่านเชื่อมั่นด้วยเหตุผลที่กองทัพอากาศได้นำเสนอไปตั้งแต่แรกทุกอย่างท่านมีแนวทาง ที่จะตอบได้ว่าเราทุกคนต้องมีความมั่นใจในเรื่องความมั่นคง ในการที่จะให้กองทัพดูแลผลประโยชน์ของประเทศชาติเพราะฉะนั้นเราจะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดและเชื่อว่าท่านมีความเข้าใจ และท่านจะสนับสนุน

พล.อ.อ.พันธ์ภักดี ยังระบุอีกว่า นอกจากการจัดหาเครื่องบินรบแล้ว กองทัพอากาศยังมีอีก 3-4 โครงการ เพียงแต่ต้องพิจารณาว่าโครงการที่เสนอไป จะต้องไม่เกินกรอบงบประมาณที่กองทัพอากาศจะได้รับ เพราะหากเสนอไปมาก จะทำให้งบประมาณโป่งพอง เกินกรอบงบประมาณของส่วนอื่น จึงพยายามทำให้อยู่ในกรอบของกองทัพอากาศ ซึ่งได้หารือกับสำนักงบประมาณตลอดเวลา เพราะจะมีเรื่องของเฮลิคอปเตอร์ ที่ใช้สำหรับช่วยเหลือกู้ภัย ที่ยังมีไม่ครบ ซึ่งถือว่ามีความจำเป็น.