ภายหลังเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 27) โดย ให้ ประชาชน ในพื้นที่เขต กรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้แก่ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และ จังหวัดชายแดนใต้ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา ห้ามออกจากเคหสถาน ในระหว่างเวลา 21.00 -04.00 นาฬิกา ต่อเนื่องเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน นับแต่วันที่ข้อกำหนดฉบับนี้บังคับใช้ ยกเว้น ผู้ป่วย หรือผู้ที่จำเป็นต้องไปพบแพทย์ หรือเข้ารับบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขรวมทั้งผู้ดูแลบุคคลดังกล่าว แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องปฏิบัติงานในการให้บริการด้านสาธารณสุข ตามที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากประกาศ ห้ามประชาชนออกจากเคหสถาน และงดเดินทางข้ามจังหวัดนั้น ส่งผลทำให้บรรยากาศภายในสนามบินดอนเมืองค่อนข้างเงียบเหงา แทบร้างผู้คนในทันที ขณะที่ร้านค้าบางส่วนยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ตลอดทั้งวันยังมีประกาศยกเลิกเที่ยวบินอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามทางสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 9 ก.ค. เรื่อง แนวปฏิบัติสำหรับผู้ประกอบการสนามบินและผู้ดำเนินการเดินอากาศในเส้นทางการบินภายในประเทศ ในระหว่างสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด (ฉบับที่ 2) ให้งดบินในระหว่างช่วงเวลา 21.00-04.00 น. และให้สายการบินจัดที่นั่งอย่างเหมาะสมกับจำนวนผู้โดยสาร โดยคำนึงถึงมาตรการเว้นระยะห่างเพื่อป้องกันควบคุมโรค และให้ผู้ประกอบการสนามบินติดตามดูแลให้ผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ ในเขตพื้นที่สนามบิน ปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค. โดยเคร่งครัด.