สำนักข่าวซินหัวรายงานจากนครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว เมื่อวันที่ 20 พ.ย.ว่านายดาววอน พะจันทะวง รองประธานบริหารหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติลาว ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัว ว่าทางรถไฟจีน-ลาว ที่จะเปิดทำการในอีกไม่ช้า ถือเป็นจุดสิ้นสุดของ “ถนนแห่งความฝัน” สายยาวไกลของประชาชนลาว
นายดาววอนกล่าวว่า การสร้างทางรถไฟที่ลาว ซึ่งมีภูเขาหินและที่ราบสูงจำนวนมาก และการพลิกประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ให้กลายเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อกับต่างประเทศนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย จึงต้องใช้ต้นทุนสูงและใช้เทคโนโลยีทันสมัยที่สุด
จีนเป็นตลาดส่งออกและผู้ลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดของลาว ทางรถไฟนี้จะช่วยลดต้นทุนการขนส่งในลาวได้มาก ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการค้าและการลงทุน พร้อมดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ส่วนต้นทุนการนำเข้าของลาวจะลดลง เมื่อทางรถไฟเปิดบริการเต็มรูปแบบ
“ทางรถไฟจะช่วยให้เกษตรกรขนส่งสินค้าง่ายขึ้นทั้งในลาวและจีน พร้อมดึงดูดนักลงทุนและนักท่องเที่ยวชาวจีนมากขึ้น” นายดาววอนกล่าว
นายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรีลาว จะโดยสารรถไฟเที่ยวแรก ที่นครหลวงเวียงจันทน์ ในวันที่ 2 ธ.ค. นี้ ซึ่งเป็นวันชาติของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยนายพันคำกล่าวในพิธีรับมอบ วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จากจีน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ว่าจะมีการจัดพิธีการทางศาสนา ก่อนเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 ธ.ค.นี้
แต่ละปี ลาวสร้างรายได้หลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการส่งออกแร่ทองแดง ทองแดง ผลิตภัณฑ์จากทองแดง ยาง ไม้ และสินค้าเกษตร อาทิ ข้าวโพดหวาน และผลไม้ ซึ่งล้วนเหมาะต่อการขนส่งทางรางที่รวดเร็วมากกว่าการขนส่งด้วยรถบรรทุกขนาดใหญ่ ซึ่งมีความไม่แน่นอนเพราะต้องวิ่งข้ามที่ราบสูง
เงินตราต่างประเทศจะหลั่งไหลเข้าสู่ลาวมากขึ้น ทำให้อัตราการแลกเปลี่ยนเงินดีขึ้น ภาวะเงินเฟ้อลดลง และเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจลาว ทั้งยังสร้างประโยชน์ต่อภาคการท่องเที่ยว โดยโรงแรม เกสต์เฮาส์ ร้านอาหาร และธุรกิจเช่ารถจะมีรายได้เพิ่มขึ้น รวมถึงสร้างรายได้ให้ภาคการสื่อสาร การศึกษา และสุขภาพ
“ประชาชนลาวภาคภูมิใจและตื่นเต้นกับทางรถไฟสายนี้มาก มันเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพที่จะนำความสุขและความมั่งคั่งมาสู่ทั้งสองประเทศ” นายดาววอนกล่าว.
ข้อมูลและภาพ : สำนักข่าวซินหัว