นายประณัย พรประภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยาม เอสเตท แอนด์ โค จำกัด หนึ่งในกลุ่มสยามกลการ เปิดเผยว่า “จากความสำเร็จธุรกิจสนามกอล์ฟของสยามคันทรีคลับ ที่เปิดบริการมานานถึง 50 ปี มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักแก่นักกอล์ฟทั้งชาวไทยและต่างประเทศ โดยในปี 2006 ได้ทำการปรับปรุงสนาม Old Course ใหม่ และเปิดบริการเมื่อปี 2007 เปลี่ยนชื่อเป็น Siam Country Club Old Course ขนาด 18 หลุม ที่เน้นบรรยากาศสภาพแวดล้อมอยู่ในหุบเขา และโอบล้อมด้วยธรรมชาติสวยงาม, ปี 2008

เปิดสนามที่ 2 Siam Country Club Plantation ขนาด 27 หลุม ที่เน้นการมองเห็นวิวทิวทัศน์แบบ Panorama View ซึ่งทั้ง 2 สนาม ได้รับเลือกจัดการแข่งขันกอล์ฟสตรีระดับโลก HONDA LPGA THAILAND มาตั้งแต่ปี 2007-2021 ติดต่อกันมาถึง 13 ปี ในปี 2014 เปิดสนามที่ 3 Siam Country Club Waterside ขนาด 18 หลุม เน้นพื้นที่รอบขอบอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 2 อ่าง และยังมี Putting Course แห่งแรกในเอเชีย อีกด้วย

ปี 2020 เปิดสนามที่ 4 Siam Country Club Rolling Hills ขนาด 18 หลุม ที่ออกแบบให้เข้ากับพื้นที่เดิมที่มีความสูงๆ ต่ำๆ ย้อนยุคไปกับสภาพภูมิศาสตร์ ที่สำคัญทั้ง 4 สนาม ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันชัดเจน และคุณภาพสนามมีความสมบูรณ์ เรียกได้ว่าเป็นสนามกอล์ฟที่ดีที่สุด และ เป็น Golf Destination ในประเทศไทย รวมถึง ยังได้รับการยกย่องจากสถาบันต่างๆ ทั่วโลก

และล่าสุด ในปี 2022 สนามกอล์ฟกลุ่มสยามคันทรีคลับ มีความพร้อมเปิดสนามที่ 5 ภายใต้ชื่อ “สยามคันทรีคลับ แบงคอก” [SIAM COUNTRY CLUB BANGKOK] มีความมั่นใจว่าจะเป็น Golf Designation แห่งใหม่ใกล้กรุงเทพฯ พร้อมให้บริการ นักกอล์ฟทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

โดยสนามที่ 5 ภายใต้ชื่อ “สยามคันทรีคลับ แบงคอก” ตั้งอยู่ถนนบางนา-ตราด กม. 22 บนพื้นที่ 519 ไร่ ใช่งบประมาณทั้งสิ้น 3,683 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นที่ดิน 2,595 ล้านบาทและงบการก่อสร้าง 1,088 ล้านบาท ซึ่งสนามออกแบบโดย Toby Cobb-Design Associate เป็นหนึ่งในนักออกแบบสนามกอล์ฟ The Coore & Crenshaw มีผลงานเป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับโลก ซึ่งมีหลายสนามที่ติดอันดับ 100 สนามจาก Golf Digest

สนามที่ 5 นี้ ได้เน้นความเป็นสยามคันทรีคลับ ที่ผสมผสานการออกแบบเอาไว้อย่างลงตัว ตั้งแต่แท่นทีออฟ แฟร์เวย์ จนถึงกรีน ลักษณะเฉพาะของสนามแห่งนี้ จะเน้นในเรื่องของ Shape Contour of fairway ซึ่งทางบริษัทกอล์ฟอีส ได้ใช้หญ้าสายพันธุ์ Sena Zoysia เป็นที่แรกของประเทศไทย ซึ่งช่วยให้ลูกกอล์ฟของท่านวิ่ง ถือว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของหญ้าพันธุ์นี้

โดยกลุ่มเป้าหมายลูกค้าของหลักของ สยามคันทรีคลับ แบงคอก จะเป็นสมาชิก ประมาณ 70% และเปิดให้บริการสำหรับนักกอล์ฟทั่วไป 30% ทางสนามฯ ขายสมาชิกทั้งแบบรายปี และราย 5 ปี ซึ่งปัจจุบัน สมาชิกแบบระยะสั้น มีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ และยืดหยุ่น เข้าถึงนักกอล์ฟได้ง่ายขึ้น นักกอล์ฟชาวญี่ปุ่นที่อยู่ในประเทศไทย มีความสนใจสมาชิกค่อนข้างมากกว่าสัญชาติอื่นๆ รองลงมาเป็นนักกอล์ฟชาวไทย ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจ ตอบโจทย์ที่รอให้คุณไปสัมผัส ซึ่งจะพร้อมเปิดให้ใช้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มกราคม 2565”..