จากกรณีที่รัฐบาลได้ประกาศให้มีการเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรมตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา พร้อมกำหนดขั้นตอนและมาตรการต่างๆอย่างชัดเจน โดยมีพื้นที่ 7 จังหวัดที่ได้รับการผ่อนปรนเรื่องการกักตัว เพียงแสดงวัคซีนพาสปอร์ต และผลการตรวจ RT-PCR มีจำนวน 4 พื้นที่ ศบค.อนุญาตให้สามารถจำหน่ายแอลกอฮอล์ได้ ซึ่งเรียกว่าพื้นที่ Blue Zone โดยพื้นที่ที่เหลือให้ผู้ว่าราช การในแต่ละจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อประจำจังหวัดเป็นผู้พิจารณา

โดยปรากฏว่าที่ผ่านมาในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี มีกลุ่มองค์กรภาคธุรกิจเอกชนด้านการท่องเที่ยว 8 องค์กร รวมตัวกันออกมาเรียกร้องและแสดงเจตนารมณ์ให้รัฐบาลเล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของผู้ประกอบการในพื้นที่เมืองท่องเที่ยวหลักของประเทศอย่างเมืองพัทยา ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางทางการลงทุน และการท่องเที่ยวที่ผลิตเม็ดเงินจำนวนมหาศาลให้กับประเทศ ที่สำคัญเป็นพื้นที่ที่ดำเนินการตามมาตรการของ ศบค.อย่างเคร่งครัด ทั้งการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนและผู้ให้บริการเกินกว่า 85% รวมทั้งการจัดทำมาตรฐานการให้ บริการแบบ SHA Plus+ แต่กลับไม่ได้รับการผ่อนผันให้มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้

โดยเฉพาะในช่วงเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งถือเป็นช่วง High Season ที่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาพักผ่อนเป็นจำนวนมาก โดยกรณีนี้ถือเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยส่งเสริม สนับสนุนและดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ จึงร้องขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เร่งพิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เสียโอกาสด้านการท่องเที่ยวในช่วงเวลาดังกล่าว อีกทั้งยังเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการ และกลุ่มแรงงานที่ต้องพบกับภาวะความเสียหายจากผลประกอบการและการว่างงานมานานกว่า 2 ปี

ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผวจ.ชลบุรี ในฐานะประ ธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี ได้ออกหนังสือคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี ที่ 144/2564 เรื่องการกำหนดมาตรการควบคุมแบบบูรณาการในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว Blue Zone ในเขตพื้นที่ จ.ชลบุรี โดยมีสาระสำคัญที่เห็นสมควรต่อการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ตามระดับความรุนแรงของสถานการณ์ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว โดยความเห็นชอบของคณะกรรม การโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี ซึ่งให้ดำเนินการในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดชลบุรี หรือ Blue Zone ประกอบด้วย อ.บางละมุง เมืองพัทยา อ.ศรีราชา อ.เกาะสีชัง และ อ.สัตหีบ เฉพาะ ต.นาจอมเทียน และ ต.บางเสร่ เป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งอนุญาตให้ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม

ซึ่งรวมถึงภัตตาคาร ร้านอาหาร สวนอาหาร โรงแรม หรือที่พักฯ สามารถเปิดให้บริการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มได้ตามปกติ โดยอนุญาตให้มีการบริโภคสุรา หรือเครื่องดื่มที่มี่แอลกอฮอล์ในร้านได้ เฉพาะร้านที่ผ่านการตรวจประเมินตามมาตรฐานความปลอดภัยในระดับ SHA Plus+ และปฏิบัติตามมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร หรือ Covid Free Setting ของกระทรวงสาธารณสุข โดยให้จำหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในเฉพาะช่วงเวลา 11.00-14.00 น. และ 17.00-23.00 น. โดยทางสถานประกอบการต้องแสดงเอกสารหลักฐานใบรับรองตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยในระดับ SHA Plus+ ที่พนัก งานเจ้าหน้าที่และผู้รับบริการสามารถมองเห็นได้ชัดเจน ขณะที่สถานบริการประเภท ผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานประกอบกิจการ อาบ อบ นวด ยังคงปิดเป็นการชั่วคราว โดยให้นายอำเภอท้องที่ ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคระดับอำเภอ (ศปก.อ.) เป็นผู้รับผิดชอบ กำกับ ดูแล ตรวจสอบ ควบคุมให้เป๋นไปตามมาตรการโดยเคร่งครัด ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป.