ถือว่ายังเป็นปรากฏการณ์ที่ประชาชนหลายคนให้ความสนใจ และเฝ้าระวังกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับปรากฏการณ์ “ฝุ่นพิษล้อมเมือง” หรือ ที่ใครหลายคนคุ้นชินกันในชื่อของ “ฝุ่น PM 2.5” ที่ตอนนี้เริ่มกลับมาส่งผลกระทบรุนแรงอย่างเห็นได้ชัดอีกครั้ง ควบคู่ไปกับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 ซึ่งฝุ่น PM 2.5 นั้น ส่งผลกระทบต่อชีวิตคนเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะปัญหาทางสุขภาพร่างกาย เนื่องจากขนาดของฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กเพียง 2.5 ไมครอน ทำให้ง่ายต่อการเข้าสู่ร่างกายจากการสูดดมทางโพรงจมูก 

อีกทั้งไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ทำให้หลายคนขาดความตระหนักถึงอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งฝุ่นพิษ PM 2.5 ส่วนใหญ่เกิดจากการเผาไหม้เครื่องจักร โดยเฉพาะเครื่องยนต์ของทั้งรถยนต์ใหม่และเก่า มักมีปริมาณสูงสุดช่วงรถติดมากๆ ในช่วงเช้าและเย็นของวันทำงาน ซึ่งมักจะเกิดในช่วงฤดูหนาวที่อากาศนิ่งและแห้ง รวมทั้งฝุ่นผงจากการก่อสร้าง ส่งผลให้ฝุ่นไม่ลอยขึ้นที่สูง ทำให้คุณภาพอากาศที่เราได้รับกลับเลวร้ายลงเรื่อยๆ

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) ในฐานะบริษัทพลังงานแห่งชาติ จึงตระหนักถึงผลกระทบที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของประชาชน จึงได้ต่อยอดนำนวัตกรรมเครื่องวัดค่าฝุ่น PM 2.5 มาติดตั้งในพื้นที่อุตสาหกรรมตามแนวท่อจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติ เพื่อให้ผู้ประกอบการในบริเวณที่มีอุปกรณ์ติดตั้งอยู่ ได้ตระหนักและรับรู้ถึงสถานการณ์และปริมาณค่าฝุ่นละอองในพื้นที่

โดย นายวุฒิกร สติฐิต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ปตท. เปิดเผยว่า “จากปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่เป็นปัญหาสำคัญของประเทศในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ปตท. ตระหนักถึงผลกระทบที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของประชาชน ซึ่งนอกจากการส่งเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นพลังงานสะอาดแล้ว ปตท. ขอเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมติดตามสถานการณ์

โดยได้ต่อยอดนำนวัตกรรมเครื่องวัดค่าฝุ่น PM 2.5 มาติดตั้งในพื้นที่อุตสาหกรรมตามแนวท่อจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติ สถานีบริการก๊าซธรรมชาติหลักเอ็นจีวี รวมถึงพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอื่นๆ แล้วกว่า 100 จุด ตามแผนที่วางไว้ในปี 2564  ครอบคลุมพื้นที่ 12 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ปทุมธานี สระบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง ราชบุรี นครราชสีมา ปราจีนบุรี นครปฐม และพระนครศรีอยุธยา พร้อมมีแผนการขยายผลไปยังพื้นที่อุตสาหกรรมอื่นๆ อีกกว่า 200 จุด ในปี 2565 เพื่อให้ผู้ประกอบการในบริเวณที่มีอุปกรณ์ติดตั้งอยู่ ได้ตระหนักและรับรู้ถึงสถานการณ์และปริมาณค่าฝุ่นละอองในพื้นที่

โดยเครื่องวัดค่าฝุ่น PM 2.5 ที่นำมาติดตั้งนั้น นอกจากจะเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาจากสถาบันนวัตกรรม ปตท. แล้ว ยังเปิดรับความร่วมมือด้านนวัตกรรมกับหน่วยงานอื่นๆ ที่มีความเชี่ยวชาญด้วย ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวเป็นอุปกรณ์ตรวจวัดคุณภาพอากาศและปริมาณฝุ่นด้วยระบบ Sensor พร้อมส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายไร้สาย และแสดงผล Real Time ผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการอ่านและวิเคราะห์ผล”

ปตท. มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมตามวิสัยทัศน์ “Powering Life with Future Energy and Beyond” และขอเป็นส่วนหนึ่งในการลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ด้วยการสนับสนุนการใช้ก๊าซธรรมชาติในภาคการผลิตไฟฟ้า ภาคอุตสาหกรรม และภาคขนส่ง พร้อมการให้บริการด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยปัจจุบัน ปตท. มีการขยายการให้บริการก๊าซธรรมชาตินอกแนวท่อ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ประกอบการในการใช้พลังงานสะอาด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทย