เรียกว่าเป็นทนายดังในช่วงข้ามคืนสำหรับ ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ผู้ที่ คุณแม่ภนิดา ศิระยุทธโยธิน แต่งตั้งให้เป็นทนายมาดูแลคดีดังเกี่ยวกับการเสียชีวิตของดาราสาว แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ แต่งานนี้ ทนายกฤษณะกลับโดนชาวเน็ตสืบประวัติและพบว่าเคยมีคดีฉ้อโกงติดหนี้หลายราย ล่าสุดทนายกฤษณะ หรือ ทนายกุ้ง ออกมาเปิดใจในรายการสด ดราม่าวันนี้ ทางช่อง 9 MCOT โดยเล่าว่า

ทนายกุ้ง เผยว่า “เริ่มจากเป็นความตั้งใจของผมที่อยากทำคดีนี้ เลยติดต่อไปที่ สภ.เมืองนนทบุรี และทางสารวัตรก็ให้เบอร์โทรไปติดต่อกันเอง โทรฯอยู่หลายวันกว่าจะได้คุย และได้ตกลงให้มาดูแลคดีนี้ ซึ่งก็ได้มีการแนะนำคุณแม่เบื้องต้น ส่วนเรื่องเงินเยียวยา 30 ล้าน ก็ต้องอยู่ที่คุณแม่จะรวบรวมหลักฐานว่าน้องแตงโม สามารถทำรายได้ ๆ เท่าไร แต่ทางนั้นเค้าก็มีสิทธิต่อรอง ถ้าเรารับเงินมาก่อนก็อาจจะเสียต่อรูปคดีได้ ส่วนเรื่องที่คุณแม่ออกจดหมาย ผมไม่ทราบมาก่อน ซึ่งผมยินดีนะที่จะมีคนช่วยกันหาหลักฐาน แต่ก็ต้องแล้วแต่ทางครอบครัว”

จากนั้นทางรายการได้ต่อสายตรงวิดีโอคอลกับ ทนายตั้ม หรือนายษิทรา เบี้ยบังเกิด คุยสด ๆ เปิดใจกลางรายการเลยว่า

ทนายตั้ม เผยว่า “เรื่องจดหมาย ผมไม่ได้รู้สึกอะไรเลยครับ ผมไม่ได้สนใจแม่ เราทำคดีนี้เพื่อน้องแตงโม คุณแม่จะเขียนจดหมายหาผมอีกกี่ฉบับ ก็ไม่รู้สึกอะไร เรายังมีความมุ่งมั่นตั้งใจเหมือนเดิม ถ้าผมมีอะไรที่จะช่วยทนายกุ้งก็พร้อมเต็มที่ครับ ส่วนตอนนี้เราก็ต้องลุ้นกันอีก 7 วัน ว่าจะมีใครเป็นผู้ต้องหาเพิ่มหรือเปล่า”

ด้าน ทนายกุ้ง เผยต่อว่า “ผมอยากขอเคลียร์ในเรื่องจดหมายคุณแม่นิดนึง เพื่อจะได้เข้าใจกัน จดหมายผมไม่ได้เขียนเอง และไม่ได้บังคับคุณแม่เขียน ผมยินดีที่ทางทนายตั้มจะเข้ามาร่วมมือกันครับ ตอนนี้ยังมีข้อพิรุธหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการนำศพไปชันสูตรอีกที่หนึ่ง รอยแผลต่าง ๆ เรายังไม่สามารถไปเห็นเอกสารได้เลย แต่มีประเด็นเพิ่มนิดนึง มีสายปริศนาโทรฯเข้ามาหาผมว่าให้ไปดูผลตรวจบริเวณศีรษะ ว่ามีลักษณะแผลจากขวดไวน์ตีประมาณ 7-8 ครั้ง ไหม ซึ่งผมได้ไปสอบถามจากคุณไทด์ ในวันที่พบศพว่ามีแผลบริเวณไหน มีรอยช้ำไหม ซึ่งอันนี้ต้องไปตามต่อว่าสายปริศนานั้นพูดเรื่องจริง หรือมีความน่าเชื่อถือประมาณไหน ตอนนี้ผมเพิ่งเริ่มนับหนึ่ง ยังไม่มีโอกาสเห็นสำนวน ผลชันสูตรเลย ถามว่าเราทำงานช้าไปไหม เราพยายามเร็วที่สุดแล้ว”

“ส่วนเรื่องราวในอดีตของผมเรื่องติดหนี้ ช่วงที่ผมเป็นหนี้เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ยอมรับว่าเกิดปัญหาวิกฤติในครอบครัว ยอมรับว่ามีการยืมเงินคนที่รู้จัก ช่วงนั้นเราหาเงินคืนไม่ทันจริง ๆ มันมีการข่มขู่ ทำให้เราต้องออกมาจากตรงนั้นเพื่อความปลอดภัยของครอบครัว ซึ่งตอนนี้ผมมีอาชีพเป็นทนาย มีรายได้แล้ว เลยอยากขอพื้นที่ของรายการ ในการออกมาบอกว่าผมอยากจะขอโทษ พร้อมที่จะชดใช้ เคลียร์หนี้ทั้งหมด” ซึ่งทางรายการได้มีการโทรฯหาตัวแทนของผู้เสียหาย ให้ทนายกุ้งได้คุยสด ๆ ผ่านทางรายการอีกด้วย”