“ธุรกิจนี้เกิดจากความชอบส่วนตัว ที่ชอบกินเยลลี่ สไตล์ญี่ปุ่น แต่ติดที่เยลลี่แบบนี้มีแคลอรีสูง หากกินมาก ๆ ก็จะทำให้อ้วนง่าย จึงเห็นโอกาสที่จะพัฒนาธุรกิจจากจุดนี้” เป็นจุดเริ่มต้นธุรกิจของ 2 ผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่ อย่าง ซารต์-ปัทมพร ปรีชาวุฒิเดช และ กานต์-อรรถกร รัตนารมย์ ผู้ก่อตั้ง “ผลิตภัณฑ์เยลลี่บุก 0 แคล” แบรนด์ ซันซุ (Sunsu) ที่วันนี้จะมาเผยเคล็ดลับความสำเร็จที่ทำให้พวกเขาเป็น “เอสเอ็มอีดาวรุ่ง” ผ่านคอลัมน์นี้

โดยทั้งคู่เล่าว่า หลังเห็นความเป็นไปได้จึงปรึกษากันเกี่ยวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ จนเจอซัพพลายเออร์ที่สามารถพัฒนาสินค้าภายใต้เงื่อนไขคือ เนื้อเยลลี่ต้องมีรสสัมผัสหนึบ กินแบบแช่เย็นหรือไม่ก็ได้ จนเกิดเป็นเยลลี่แบรนด์นี้ขึ้น ซึ่งด้วยความที่เป็นเยลลี่บุก 0 แคลเจ้าแรก จึงยังไม่มีคู่แข่งในตลาด โดยหลังจากผลิตสินค้าออกมาขายปลายเดือน ก.ย. 2563 ก็ได้รับการตอบรับอย่างดี จนทำยอดขายได้กว่า 30 ล้านบาทใน 3 เดือน ขณะที่ปี 2564 มียอดขายอยู่ที่ 140 ล้านบาท ทำให้ปี 2565 นี้ จึงตั้งเป้าว่าจะมียอดขายเติบโต 100%

สำหรับ “เบื้องหลังความสำเร็จ” นั้น ทั้งสองวิเคราะห์ว่า เกิดขึ้นจาก “4 คีย์เวิร์ด” คือ “พันธมิตรดี-บริหารสต๊อก-สำรองเงินทุน-สร้างจุดขาย” โดยกุญแจดอกแรกอย่าง “การมีพันธมิตรที่ดี” นั้น จะคอยช่วยเหลือเราในทุกด้าน และเซเว่น อีเลฟเว่น ก็เป็นพันธมิตรที่สำคัญของทั้งคู่มาตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นธุรกิจ ส่วนดอกต่อมาคือ “การดูแลสต๊อกสินค้า” เพราะส่งผลต่อการวางแผนการสั่งวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ซึ่งถ้าหากดูแลได้ดีจะช่วยคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ กุญแจดอกที่สาม คือ “ต้องมีเงินทุนสำรอง” เผื่อไว้ใช้ในเวลาฉุกเฉิน เพื่อทำให้ธุรกิจไม่สะดุด และกุญแจดอกสุดท้ายคือ “การสร้างจุดขาย” โดยสินค้าจะต้องมีจุดขายที่ชัดเจน เพื่อให้โฟกัสกลุ่มเป้าหมายได้ ซึ่งจะนำไปสู่การวางแผนการตลาดที่ตรงกลุ่ม

“เราเป็น SME จึงไม่มีงบการตลาดมากพอจะทุ่มได้เหมือนบริษัทใหญ่ ดังนั้นเราต้องรู้ว่าเป้าหมายคือใคร เราเหมาะกับกลยุทธ์แบบไหน และอย่าไปตามกระแสมากนัก เช่น บอกให้ขายออนไลน์ แต่ถ้าลูกค้าคุณไม่ได้อยู่ในนั้น ก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี” เป็นคำแนะนำจากผู้ประกอบการดาวรุ่งคู่นี้ ที่เอสเอ็มอีอื่น ๆ ก็น่านำเคล็ดลับนี้ไปถอดรหัสได้.

ศิริโรจน์ ศิริแพทย์ [email protected]