เมื่อวันที่ 23 เม.ย. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ห่วงใยประชาชนในพื้นที่จังหวัดบริเวณริมแม่น้ำโขง 8 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ที่อาจได้รับผลกระทบจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ระดับน้ำที่สถานีเขื่อนจิ่งหง ประเทศจีน เพิ่มขึ้นสะสมอย่างต่อเนื่อง จากวันที่ 18-21 เม.ย. 2565 ประมาณ 2.00 เมตร หรืออัตราการระบายน้ำสะสม 1,590 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งมาจากการระบายน้ำเพิ่มขึ้นและมีฝนตกบริเวณท้ายเขื่อน

นายธนกร กล่าวอีกว่า ทั้งนี้กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ประเมินระดับน้ำในแม่น้ำโขงจากสถานการณ์ดังกล่าว คาดการณ์ว่าระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องช่วงวันที่ 22-29 เม.ย. 2565 โดยช่วงเหนือเขื่อนไซยะบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) บริเวณสถานีเชียงแสน จ.เชียงราย ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมระดับน้ำเพิ่มขึ้นสะสมในช่วงเวลาดังกล่าวประมาณ 1.90-2.00 เมตร และช่วงท้ายเขื่อนไซยะบุรี สปป.ลาว บริเวณตั้งแต่สถานีเชียงคาน จ.เลย ลงมาถึงสถานีโขงเจียม จ.อุบลราชธานี ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มากกว่า 0.50 เมตร ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนไซยะบุรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีรับทราบสถานการณ์ดังกล่าว พร้อมกำชับให้ กอนช. ประสาน บูรณาการทำงานร่วมกับจังหวัดบริเวณริมแม่น้ำโขง 8 จังหวัดอย่างใกล้ชิด

“นายกรัฐมนตรีกำชับให้ กอนช. ประสานและบูรณาการทำงานร่วมกับจังหวัดบริเวณริมแม่น้ำโขง 8 จังหวัด และให้เผยแพร่ข้อมูลประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขง รวมทั้งแจ้งเตือนให้ประชาชนได้ติดตามระดับน้ำในแม่น้ำโขงอย่างต่อเนื่อง เตรียมพร้อมรับมือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากระดับน้ำโขงเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน เช่น พืชผลทางการเกษตร เครื่องมือและอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพอาจได้รับความเสียหายได้ รวมถึงเรือที่สัญจรและประกอบกิจกรรมในบริเวณแม่น้ำโขง ตลอดจนผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณริมแม่น้ำโขง 8 จังหวัด ได้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมการเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น จากการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำในแม่น้ำโขงในช่วงเวลาดังกล่าว” นายธนกร กล่าว.