กว่า 25 ปี ที่มาเป็นพระธรรมทูตไทยเพียงหนึ่งเดียวในประเทศรัสเซีย “พระชาตรี เหมพันโธ” เจ้าอาวาส และผู้ก่อตั้งวัดพุทธวิหาร เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ได้เปิดใจกับ “Dailynews Talk” ถึงที่มาที่ไป ทำไมถึงตัดสินใจมาเป็นพระธรรมทูตในประเทศรัสเซีย และการได้เป็นพระอาจารย์สอนวิปัสสนากรรมฐานให้กับ “วลาดิเมียร์ ปูติน” ประธานาธิบดีรัสเซีย

มุ่งหน้าสู่ “รัสเซีย” เรียนจบปริญญาเอก  

พระอาจารย์ชาตรี เล่าว่า ตอนแรกเรียนจบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) จากนั้นอยากจะไปเรียนต่อที่ประเทศอินเดีย จึงได้ปรึกษากับพระอาจารย์ของอาตมา คือ พระพรหมมังคลาจารย์ (หลวงพ่อปัญญา นันทภิกขุ) อดีตเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษดิ์ และพระภาวนาโพธิคุณ หรือท่านอาจารย์โพธิ์ จันทสโร เจ้าอาวาสวัดธารน้ำไหล จ.สุราษฎร์ธานี เพราะในขณะนั้นสอบได้ทุนจาก มหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ด้วย

พระอาจารย์ชาตรี เล่าต่อว่า พระอาจารย์ทั้งสองท่านก็แนะนำให้ไปรัสเซีย เนื่องจากยังไม่เคยมีพระธรรมทูต จึงได้ตัดสินใจไปเรียนต่อในระดับปริญญาตรี และปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซียในปี 2540 และสามารถเรียนจนจบปริญญาเอก จากคณะประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยคริสเตียนแห่งเซนต์ปิเตอร์สเบิร์ก และปริญญาเอก ด้านรัฐศาสตร์การทูต ภาควิชายุโรปศึกษา จากคณะรัฐศาสตร์การทูต จากมหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก จนกระทั่งได้เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัย ดูแลเรื่องการจัดสรรทุนของมหาวิทยาลัยให้กับนักศึกษาชาวต่างประเทศด้วย

จุดเริ่มต้นที่ได้รู้จัก “วลาดิเมียร์ ปูติน”

การที่ได้เข้าไปเรียนที่ มหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก นี่เอง ทำให้พระอาจารย์ชาตรี ได้มีโอกาสพบกับ “วลาดิเมียร์ ปูติน” ประธานาธิบดีรัสเซีย ซึ่งในขณะนั้นเป็นรองอธิการบดีฝ่ายต่างประเทศของ มีหน้าที่ดูแลนักศึกษาชาวต่างชาติ ทำให้ “วลาดิเมียร์ ปูติน” ก็ได้รู้จักพระสงฆ์จากประเทศไทยรูปนี้เช่นกัน นั่นนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ปัจจุบันนี้ “วลาดิเมียร์ ปูติน” จะนิมนต์ พระอาจารย์ชาตรี ไปพบเฉลี่ยแล้วปีละ 3 ครั้ง

สอนวิปัสสนากรรมฐานผู้นำรัสเซีย

พระอาจารย์ชาตรี บอกว่า ช่วงปี 2555-57 ที่ประเทศไทยเกิดความรุนแรงในสถานการณ์ทางการเมือง ท่าน “วลาดิเมียร์ ปูติน” ได้ติดต่อมาเพื่อสอบถามถึงสถานการณ์ต่างๆ ในประเทศไทย จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ ในแต่ละปีอาตมาจะได้พบ “วลาดิเมียร์ ปูติน”  ประมาณ 3 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งที่พบกันจะมีการพูดคุยทุกเรื่อง ส่วนใหญ่จะถามเรื่องการเมืองในไทย ถามถึงสถาบันหลักของไทย เรื่องการช่วยประเทศไทยอย่างไร รัสเซียควรปฏิบัติตัวต่ออาเซียนอย่างไร บางครั้งท่านก็พูดเรื่องไม่สบายใจ อาตมาก็สอนในเรื่องการทำจิตให้สงบ เพราะการเป็นผู้นำมีสิ่งที่บางเรื่องไม่สามารถเล่าได้ การฝึกวิปัสสนากรรมฐาน จะเป็นทางออกช่วยได้ ซึ่งท่านก็นำไปปฏิบัติ และเท่าที่เจอ “วลาดิเมียร์ ปูติน” ก็เหมือนกับบุคคลทั่วไป มีทั้งความรัก ทุกข์ ความเศร้า มีความโศก เสียใจ น้อยใจ

เผยแผ่พุทธศาสนาเริ่มต้นจากติดลบ 100

ส่วนเรื่องการทำงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศรัสเซียนั้น พระอาจารย์ชาตรี ยอมรับว่า เหมือนกับเริ่มต้นจากติดลบ 100 ไม่ใช่เริ่มจากติดลบธรรมดา แต่ก็เริ่มต้นฟันฝ่าเรื่อยมาจน ช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา สามารถสอนวิปัสสนากรรมฐานคนรัสเซียไปแล้ว 421 รุ่น รวมกว่า 20,000 คน มีคนรัสเซียสนใจเข้าเรียนวิปัสสนากรรมฐานจำนวนมาก แต่ละเดือนต้องจอง บางคนถึงกับต้องจองกันเป็นปี

คนรัสเซียสนใจคำสอนของพระพุทธเจ้า

“คนรัสเซียไม่ได้สนใจเรื่องความเชื่อ แต่สนใจเรื่องคำสอนของพระพุทธเจ้า และการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ตอนแรกคนรัสเซียสนใจปรัชญาคำสอนในพระพุทธศาสนา เพราะมองว่าเป็นคำสอนที่ฉลาด ซึ่งคนรัสเซียถือว่ามีการศึกษาสูง รองจากญี่ปุ่น และเกาหลี เพราะมีคนรัสเซียถึง 68% ที่ได้รับการศึกษาสูงกว่าระดับปริญญาตรี ดังนั้นจึงให้ความสนใจในเรื่องปรัชญา คำสอน จิตวิทยา จิตวิทยาบำบัด เช่น เมื่อมีปัญหาชีวิต ครอบครัว สังคม พุทธศาสนาช่วยอะไรได้บ้าง ไม่ได้สนใจว่าต้องการที่จะเชื่อพระพุทธศาสนา และเมื่อเกิดประโยชน์จากการปฏิบัติ คนรัสเซียจึงค่อยเปลี่ยนมานับถือพระพุทธศาสนา ดังนั้นจะเห็นได้ว่าคนรัสเซียที่มีการศึกษาสูง จะหันมาสนใจพระพุทธศาสนามากขึ้น” พระอาจารย์ชาตรี บอกถึงความสนใจในพระพุทธศาสนา ของคนรัสเซีย

ขอถนนเข้าวัด-น้ำประปาแค่ 1 วันได้แล้ว

อีกปัจจัยที่สำคัญที่สามารถทำให้ทำงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาในรัสเซียได้อย่างดี คือ รัฐบาลรัสเซีย ไม่กีดกัน ตรงกันข้ามกับให้การสนับสนุนอีกด้วย พระอาจารย์ชาตรี ยอมรับว่า ศาสนาพุทธกำลังรุ่งเรืองในรัสเซีย เคยขอสนับสนุนสร้างถนนเข้าวัด ก็ได้ภายใน 1 วัน ขอน้ำประปาก็ได้ภายใน 1 วัน มาขุดน้ำประปาให้ ได้ฮีตเตอร์ ได้ไฟฟ้า สนับสนุนทุกทาง โลกกำลังเปลี่ยน กลับตาลปัตร รัฐบาลรัสเซียกลับให้การส่งเสริมพระพุทธศาสนา ขณะที่ประเทศที่คนส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนาอย่างประเทศไทย รัฐบาลชุดปัจจุบัน ตั้งแต่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี กลับไม่ส่งเสริมพระพุทธศาสนา ไม่มีรัฐบาลไหนทำให้พระพุทธศาสนาตกต่ำได้เท่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ อีกแล้ว

นอกจากนี้ พระอาจารย์ชาตรี ยังพูดถึงความสัมพันธ์ไทย-รัสเซีย ตั้งแต่อดีต และมุมมองในสงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยยืนยันว่าไม่สนับสนุนสงคราม แต่พูดในมุมของอาจารย์ที่สอนรัฐศาสตร์ ภูมิรัฐศาสตร์การทูต มา 18 ปี ถึงบทลงเอยของสถานการณ์สงครามรัสเซีย -ยูเครน ได้อย่างน่าสนใจ

ติดตามบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่รายการ “DailynewsTalk” เปิดใจ “พระชาตรี เหมพันโธ” พระสงฆ์ไทยหนึ่งเดียวในรัสเซีย ผู้สอนสมาธิ “ปูติน” ชมคลิป