จากกรณีเงินจากบัญชีออมทรัพย์และบัญชีกระแสรายวัน ซึ่งเป็นบัญชีเก็บเงินรายได้ของเทศบาลนครอุบลราชธานี เงินได้หายไปรวม 39 ล้านบาท โดยมีการโอนออกจากบัญชีเป็นสินค้าและบริการผ่านบริษัทขายสินค้าออนไลน์แห่งหนึ่ง ซึ่งทางตำรวจได้เรียกสอบเจ้าหน้าที่ส่วนการคลังกว่า 12 ปาก รวมทั้ง ผอ.ส่วนคลังเทศบาลนครอุบลราชธานี พร้อมทำการอายัดคอมพิวเตอร์ 10 เครื่อง ไปทำการตรวจสอบนั้น

เทศบาลนครอุบลฯ วุ่น! เงิน 39 ล้านโดนแฮกโอนเข้าบัญชีซื้อขายสินค้าชื่อดัง

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 18 พ.ย. ทางจังหวัดอุบลราชธานี ได้ตั้งกรรมการเพื่อสอบสวนติดตามในคดีนี้ โดยนายสำเนียง สิมาวัน ท้องถิ่นจังหวัดอุบลราชธานี เป็นเลขานุการ ได้นำทีมเข้าทำการสอบสวนในระบบการทำงาน ซึ่งนายสำเนียง กล่าวว่า ยังไม่พบพิรุธ อย่างไรก็ตาม ต้องดูการสอบสวนของตำรวจและการตรวจสอบคอมพิวเตอร์ว่า จะออกมาอย่างไร ขณะที่จำนวนเงินที่สูญไปยอดเพิ่มจาก 39 ล้าน เป็น 58 ล้านบาท โดย นายเรืองวิทย์ โหตระไวศยะ, นายสุรศักดิ์ สุรวงศ์ นิติกรเทศบาลนครอุบลราชธานี ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.รุ่งทวี นาปาน รอง สว.สส.สภ.เมืองอุบลฯ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเพิ่มเติม โดยยอดเงินที่หายพบมาตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. จนมาถึงวันที่ 14 พ.ย. อีก 19 ล้านบาท รวมเงินที่ไหลออกไปเสียหายรวม 58 ล้านบาท ซึ่งจะมีการตรวจตสอบย้อนหลังไปอีก อาจจะมีความเสียหายเพิ่มเติม

นายสำเนียง กล่าวต่อว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ พนักงานสอบสวนรวมทั้งตำรวจไซเบอร์ได้ให้น้ำหนักการกระทำของคนภายในเป็นสำคัญ โดยอาจจะมีส่วนรู้เห็นทำให้เกิดการโยกย้ายถ่ายเงินผ่านบริษัทขายสินค้าออนไลน์และโอนย้อนกลับเข้ากระเป๋าคนใดคนหนึ่งหรือหลายคน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีกำลังแกะรอยติดตามเส้นทางอยู่ ขณะที่ทางเทศบาลนครอุบลราชธานี โดย นางสาวพิศทยา ไชยสงคราม นายกเทศมนตรี ได้สั่งบุคลากรส่วนคลังเทศบาลนครอุบลราชธานีห้ามลา ห้ามขาด ในระยะนี้ ซึ่งสันนิษฐานว่า ทางเทศบาลอาจจะได้กลิ่นไม่ดีที่หมักหมมมานานภายในองค์กรเทศบาลเอง

ขณะที่แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ระบุว่า ส่วนคลังเทศบาลนครอุบลราชธานีว่างเว้น ผอ.ส่วนคลังมานาน ที่ผ่านมาจะเป็นรักษาการ ผอ.ส่วนการคลัง ก่อน นางมาลี ตันฑิกุล ผู้อำนวยการสำนักคลัง คนปัจจุบัน เพิ่งเดินทางเข้ารับตำแหน่งได้ 4 เดือนเศษ ซึ่งหลังเข้ารับหน้าที่ ได้จัดระบบการทำงานส่วนคลังให้เป็นไปตามระเบียบทั้งระบบการบริหารการเงิน-การบัญชี ด้วยระบบ E-lAAS การถือรหัสเบิกจ่ายด้วยระบบของธนาคารกรุงไทย คือ ระบบ KTB Coperateonline มีการตรวจสอบรายงานสถานะทางการเงิน-บัญชี ตามระเบียบ กระทั่งมีการตรวจพบความผิดปกติ การสูญหายของเงินจำนวนดังกล่าว.