เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านไทรน้อย จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านแม่ของ “นายตาล” ผู้ต้องหาฆ่าฝังดินผู้จัดการแบงก์ ภายหลังพบกับ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 59 ปี แม่ของนายตาล ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ปกติแล้วที่บ้านหลังนี้ตนจะอยู่กับลูกสาว และด้วยความที่ว่าลูกคนนี้อายุเพียงแค่ 16 ปี เกรงว่านายตาลจะทำอะไรมิดีมิร้าย จึงไม่ให้นายตาลอยู่ด้วย เจอกับนายตาลครั้งสุดท้าย เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว อีกฝ่ายบุกพังบ้านทำลายข้าวของเสียหาย มีการหยิบเอามีดดาบมาวางไว้หน้าบ้าน 2-3 เล่ม เพื่อข่มขู่ ก่อนจะเข้าไปนอนหลับที่ชั้นสอง โชคยังดีที่ไม่มีคนอยู่บ้าน สุดท้ายต้องแจ้งตำรวจให้มาเคลียร์ เพราะกลัวอีกฝ่ายจะทำร้าย

“… ก่อนหน้านี้ลูกชายไม่ได้เป็นคนแบบนี้ เรียนเก่งพูดได้ 3 ภาษา ไทย จีน อังกฤษ ถึงขนาดได้ทุนไปเรียนที่ประเทศจีน แต่พอพักหลังตั้งแต่เลิกกับพ่อเขา เขาก็เปลี่ยนไป กลายเป็นคนติดเกม วันๆ อยู่แต่ร้านเกมจนเสียการเรียน ถูกให้ออกจากโรงเรียน ต่อมาเขาก็ทำงานอยู่ใน จ.นนทบุรี เป็นเด็กติดรถส่งของพวกกระเบื้อง สุขภัณฑ์ต่างๆ ไปต่างจังหวัดบ้าง และด้วยความที่เขากินเหล้าเก่ง ได้เงินมาเท่าไรก็เอาไปซื้อแต่เหล้าหมด แล้วพอกินเหล้าก็ชอบพูดว่า กูฆ่ามาแล้ว กูเป็นเทวดา อะไรประมาณนี้ ส่วนหนึ่งเชื่อว่าเป็นเพราะ เขาเคยถูกพ่อเอาไม้ฟาดหัวอย่างแรงด้วย…” น.ส.ทัศนีย์ กล่าวและเผยอีกว่า

ก่อนหน้านี้ ตนกับลูกสาวเคยอยู่ที่คอนโดฯ ย่านดินแดง นายตาล ก็ตามไปอาละวาดขอเงิน พอไม่ได้ก็บุกพังข้าวของ ทำร้ายร่างกาย จนต้องขายคอนโดฯ ย้ายหนีมาอยู่ที่นี่ ตนมารู้ข่าวว่าลูกชายไปก่อเหตุก็เมื่อช่วงเช้านี้ รู้สึกตกใจและเสียใจกับผู้เสียชีวิต คนดีๆ ต้องมาโดนทำแบบนี้ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจเจอตัวแล้วลูกชายคิดต่อสู้ อนุญาตให้วิสามัญได้ทันที ตนจะได้ตายตาหลับด้วย อยากฝากขอโทษทางญาติของผู้เสียชีวิต

“…ฝากบอกนายตาลด้วยว่า ถ้ามันยังมีชีวิตอยู่ก็ขอให้มันตาย อย่าได้มาเจอกันอีกเลย หมดทางเยียวยาแล้ว เขาอุตส่าห์ให้งาน ให้ที่พัก แต่กลับทำกับเขาแบบนี้…” แม่นายตาล กล่าว