จากกรณีโลกออนไลน์ ได้เผยแพร่คลิปกลุ่มบุคคลกำลังยืนโวยวายและด่าทอตำรวจโดยคำหยาบคาย หลังจากเจ้าหน้าที่พยายามเข้ามาเตือนเรื่องดื่มสุราเปิดเพลงเสียงดังยามวิกาล เป็นการรบกวนชาวบ้านในพื้นที่ โดยฝ่ายกลุ่มบุคคลกลับไม่พอใจ ต่อว่าต่อขานอย่างรุงแรง อีกทั้งยังอ้างว่ามีพี่น้องเป็นตำรวจยศ พ.ต.อ. และ พล.ต.อ. โดยเอ่ยนามสกุลหนึ่งออกมาด้วยว่า เป็นนามสกุลของตำรวจคนดังกล่าว ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ส่วนใหญ่เห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจรายดังกล่าว ที่โดนดูหมิ่นเหยียดหยาม

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 14 ส.ค. พ.ต.ท.ไมตรี บูรณทอง รอง ผกก.ป. สภ.เมือง จ.สมุทรปราการ ได้เปิดเผยว่า บุคคลในคลิปก็คือ ส.ต.ต.สุรวีร์ วีระชาติ ผบ.หมู่ (ป.) สภ.เมืองสมุทรปราการ โดยเหตุเกิดกลางดึกคืนวันที่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมา หลังจากรับแจ้งว่ามีการตั้งวงสุรา แล้วเปิดเพลงเสียงดังในร้านอาหารย่านสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสศรีนครินทร์ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ซึ่งทาง ส.ต.ต.สุรวีร์ ได้แสดงตัวและขอให้ลดเสียงเพลงลง เป็นเหตุให้บุคคลในร้านไม่พอใจ กระทำการด่าทอดดูหมิ่นเจ้าพนักงานอย่างรุนแรง จนทาง ส.ต.ต.สุรวีร์ ต้องล่าถอยกลับมารายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ซึ่งก็ต้องไปตามกฎหมาย คือต้องแจ้งความเอาผิดกับกลุ่มบุคคลทั้งหมด ดำเนินคดีข้อหา

1.ร่วมกันต่อสู้พนักงานขัดขวางเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ 2.ร่วมกันเปิดเพลงส่งเสียงดังอื้ออึงโดยไม่มีเหตุอันควร จนทำให้ประชาชนตกใจหรือเดือดร้อนจากการเปิดเพลงเสียงดังในที่สาธารณะ 3.ร่วมกันกระทำการใดต่อผู้อื่นอันเป็นการข่มเหงคุกคามหรือเดือดร้อนรำคาญ 4.ร่วมกันดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่ 5.ร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่ 6.ร่วมกันทำร้ายร่างกายและจิตใจผู้อื่นไม่ถึงกับอันรายร่างกาย ขณะนี้ตำรวจทราบตัวกลุ่มคนดังกล่าวแล้ว และอยู่ในขั้นตอนของการออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา

ด้าน ส.ต.ต.สุรวีร์ กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนเองกับคู่ตรวจอีกคนหนึ่ง ไประงับเหตุทะเลาะวิวาทที่ซอยอุดมเดช แล้วมีการแจ้งเหตุซ้อน มีการเปิดเพลงเสียงดังรายนี้เข้ามา ตนเองจึงแยกจากคู่ตรวจออกมาเพื่อมาระงับเหตุที่จุดดังกล่าว พอมาถึงก็พบว่า มีการเปิดเพลงเสียงดังจริง จึงไปแจ้งว่าให้ช่วยเบาเสียงลง เนื่องจากมีประชาชนแจ้งเข้ามา แต่กลุ่มคนดังกล่าวกลับไม่พอใจ ด่าทอโวยวายตามคลิป อ้างว่ารู้จักกับคนใหญ่คนโต ขนาด พันเอก พันโท ยังไม่กล้ายุ่ง ตนจึงถอยกลับมา ก่อนแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาให้ทราบ รวมทั้งได้รับคำแนะนำจากผู้บังคับบัญชา ให้แจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย

“…ถามว่ารู้สึกยังไงกับเหตุการณ์ดังกล่าว ยอมรับว่ามีน้อยใจบ้างที่ตำรวจไทยต้องมาเจออะไรแบบนี้ แต่ด้วยการที่ได้รับการฝึกให้เป็นตำรวจที่ดี คือต้องอดทนต่อความเจ็บใจ ซึ่งตนเองก็ยึดคำนี้ไว้ตลอด ถามว่าท้อไหม ตนเองไม่ท้อ และได้แรงบันดาลใจจากผู้กำกับท่านหนึ่ง ที่ระบุว่าตำรวจงานป้องกัน เป็นตำรวจที่ได้ช่วยเหลือประชาชนได้ดีที่สุด และด้วยความที่ตนเองอยากช่วยเหลือประชาชน จึงตั้งใจเป็นตำรวจที่ดี…” ส.ต.ต.สุรวีร์ กล่าว