เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง นายจตุพร พรหมพันธ์ุ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) ให้สัมภาษณ์ประเด็นการเมืองภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทยและหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย (พท.) ประกาศชวนคนเสื้อแดงกลับบ้านว่า คนเสื้อแดงเป็นแล้วเป็นจนตายไม่มีการลาออก ยกเว้นทรยศต่ออุดมการณ์ ทั้งนี้ตลอด 12-15 ปีที่ผ่านมา คนเสื้อแดงเป็นมนุษย์ที่ได้รับความอยุติธรรมมากที่สุด ถูกเข่นฆ่ามากที่สุดและถูกมองเป็นคนผิด อย่างไรก็ตามตนพูดมาตลอดว่าการต่อสู้ของคนเสื้อแดงซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุไม่ได้ต่อสู้เพื่อชัยชนะ แต่ต่อสู้เพื่อลูกหลาน ดังนั้นจึงเป็นสิทธิของอุ๊งอิ๊ง ที่จะชวนคนเสื้อแดงกลับบ้าน และเป็นสิทธิของทุกคนที่จะตัดสินใจ

เมื่อถามถึงความเห็นต่อกรณีพรรคเพื่อไทย ชูนางสาวแพทองธารเป็นนายกฯ และกังวลว่าจะนำไปสู่การรัฐประหารในอนาคตหรือไม่ นายจตุพรกล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้ผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไปที่ได้รับคะแนนเสียงจากประชาชนสูงที่สุดสามารถเป็นนายกฯ และไม่เฉพาะนางสาวแพรทองธาร เท่านั้นแต่ใครๆ ก็สามารถเป็นได้ ไม่ว่าจะเป็นนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย, นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แต่กว่าจะถึงวันนั้นยังอีกไกล วันนี้การเลือกตั้งยังไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ลับลวงพรางทั้งสิ้นของจริงยังไม่เปิดเผย

เมื่อถามถึงกรณีมีการ เสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ สำรอง นายจตุพร กล่าวว่า ยุทธการแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น มองว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร ครองรักกันมายาวนาน การสร้างความแตกแยกให้สองคนนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย มันไม่เกิดประโยชน์ เพราะต่อให้ร้อยประยุทธ์หรือร้อยประวิตรก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ การเอา พล.อ.ประยุทธ์ลงและเอา พล.อ.ประวิตร ขึ้นนั้น เป็นการสร้างความหวังลมๆ แล้งๆ เชื่อว่าสุดท้ายแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร จะไม่มีวันทะเลาะกัน มีแต่บางคนที่ไปหลงเชื่อ วิธีแก้ปัญหาทางเดียวที่สามารถเป็นไปได้คือทั้ง 3 ป. ต้องไปทั้งหมดพร้อมกัน.