เมื่อวันที่ 24 พ.ค. พล.ต.ต.ฉลอง สุขจันทร์ ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.วัฒนชัย จันทาทุม ผกก.สภ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ว่าเมื่อเย็นวันที่ 23 พ.ค.65 ได้มี น.ส.กาญณมาส มั่นเจริญ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก นายทวี หนันลา (ฤาษีพระบิดา) เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับ นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ชัยภูมิ ในความผิดฐานบุกรุกและเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ พนักงานสอบสวนจึงได้รับคำร้องทุกข์ไว้ทำการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการต่อไป

โดย น.ส.กาญนภาส ระบุว่า ตัวเองเป็นทนายความ รับมอบอำนาจจาก นายทวี ให้มาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับ นายไกรสร เพียงคนเดียวในความผิดมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” และข้อหา “บุกรุกเคหสถาน สืบเนื่องจากกรณี เมื่อวันที่ 8 พ.ค.65 ที่ผ่านมา นายไกรสร พร้อมด้วยทีมงานหมอปลา และคณะสื่อมวลชนจากหลายสำนัก ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ บุกเข้าตรวจสอบสำนักประหลาด ในพื้นที่หมู่บ้านกุดแคน หมู่ 2 ต.ดงกลาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ที่ตั้งอยู่ห้างจากสำนักงานองค์การบริหารดงกลางเพียง 500 เมตร หลังจากได้รับการร้องเรียนและประสานงานจากทีมงานหมอปลา ว่าบริเวณสำนักดังกล่าว มีการกักขังผู้มาปฏิบัติธรรมและรับรักษาโรคโดยวิธีการแบบแปลกประหลาดไม่ถูกสุขลักษณะของกระทรวงสาธารณสุขฯ

จากนั้นเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 65 ที่ผ่านมา นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รอง ผวจ.ชัยภูมิ ยังได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่การปกครองจังหวัดตำรวจ ป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชัยภูมิ จนท.สนง.ปศุสัตว์และ จนท.จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้นำป้ายประกาศขนาดใหญ่อีกจำนวน 3 ป้ายบริเวณปากทางเข้าระบุ 1.)พื้นที่กำหนดพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ 2.)ป้ายกำหนดพื้นที่หวงห้ามเข้า-ออก 3.)ป้ายขอให้ออกจากพื้นที่ที่เกิดข้อพิพาท ซึ่งหลังจากนี้ก็มีเจ้าหน้าที่มาคอยปิดกันห้ามเข้าออกในพื้นที่ดังกล่าว

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้นำกำลังบุกเข้าตรวจสอบเก็บหาหลักฐานต่าง ๆ เพิ่มเติมอีก โดยแยกให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ออกหาหลักฐานมานำมาแจ้งความดำนินคดีกับนายทวี โดยได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิได้เก็บตัวอย่างน้ำหมักต่าง ๆ ในโอ่งนับ 100 ใบ พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างน้ำในบ่อหมักแจ่วปลาร้าบอง เพื่อส่งไปตรวจพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการสาธารณสุข

ส่วนเจ้าหน้าที่ อส.ฝ่ายปกครองได้ขุดหาหลักฐานต่าง ๆ โดยรอบสำนักฯ นอกนั้นยังได้ให้ปศุสัตว์ได้มาทำการตรวจนับสัตว์ต่าง ๆ ทั้งที่ผิดกฎหมายและถูกกฎหมายกพร้อมทำบัญชีการตรวจนับ พบว่าภายในวัดยังมีสัตว์จำนวนมากประกอบด้วยประกอบด้วยโค (วัว) 11 ตัว กระบือ (ควาย) 5 ตัว กวางพันธุ์รูซ่า 15 ตัว ไก่ไข่ประมาณ 30 ตัว ไก่พื้นเมืองและไก่งวงอีกจำนวนหนึ่งที่กระจายอยู่ตามตัวไม้ในพื้นที่ เป็ดเทศ ประมาณ 15 ตัว สุนัขประมาณ 20 ตัว แมว 10-20 ตัว อีกัวน่า 1 ตัว หนูตะเภา จำนวน 24 ตัว ซึ่งขณะนี้พบว่าสัตว์ต่างที่อาศัยอยู่ในสำนักประหลาดของพระบิดาฯกำลังอดอาหารหิวโซ

อย่างไรก็ตามก็ตามหลังจากที่ นายไกรสร ทราบข่าวว่า ถูกแจ้งเอาผิด 157 แล้วในเฟซบุ๊ก “ไกรสร กองฉลาด” ได้มีการโพสต์ข้อความระบุว่า “…อุ๊ย พระบิดา พระองค์ลงทุนแจ้งความจับผู้ว่าฯชัยภูมิเลยรึขอรับ นับเป็นความภาคภูมิใจ ในชีวิตรับราชการอย่างยิ่ง อิอิ…” และ “…พระบิดา กับพระมารดานี่ยังไง แย่งกันเป็นข่าวตลอด กลัวคนไทยเหงาอ่ะ ดูออก 555…” ภายหลังจากมีการโพสต์ข้อความดังกล่าวออกไปทำให้ชาวเน็ตต่างเข้าไปโพสต์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางส่วนใหญ่มองว่า สิ่งที่ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิและหมอปลากระทำนั้น ถูกต้องแล้ว พร้อมให้กำลังใจทั้งสองกันอย่างต่อเนื่อง.