อุปสรรคของการรักษาคนไข้โรคอีดี คือ คนไข้อายที่จะบอกปัญหากับแพทย์หรือบอกไม่ตรง คนไข้ไม่ยอมพบแพทย์บางคนพบแต่ไม่ยอมให้ตรวจภายในยังอายอยู่ ชายต้องตรวจภายในเพื่อหาดูว่ามีต่อมลูกหมากโต มีก้อนเนื้องอกที่กล้ามเนื้อเพศ มีถุงน้ำในลูกอัณฑะ มีปัญหาเส้นเลือดอุดตันจนไขมันสูง จนความดันโลหิตสูง มีน้ำตาลสูงจนหัวอวัยวะเพศเขียวซีด ทีมแพทย์มุ่งหวังความสำเร็จในการรักษาทางกายคือต้องตรวจให้ละเอียดถึงข้อมูลของโรคแอบแฝงที่คนไข้ไม่รู้ตัว แต่พอตรวจภายในแพทย์จะรู้ทันทีว่าคนไข้มีเบาหวานแอบแฝงอยู่เพราะหัวอวัยวะเพศจะมีสีแดงในขณะมีการอักเสบ และถ้ามีเส้นเลือดรัดตัวมากจากน้ำตาลสูง หัวอวัยวะเพศจะซีดจนเขียว ตรงกันข้ามกับตอนชายแข็งแรงที่ไม่มีอาการเบาหวานหัวอวัยวะเพศจะแดงสดใสแข็งแรงไม่แดงก่ำเช่นตอนอักเสบป่วย เป็นต้น

ปัจจุบันพบว่า คนไข้อีดีทันสมัยมากจะบอกกับแพทย์เองว่าสงสัยฮอร์โมนชายจะน้อย เพราะมีอาการทุกอย่างตามบทความคอลัมน์เสพสมในเดลินิวส์ ที่ให้ความรู้ซ้ำกันเพื่อปลุกใจให้รักษาสุขภาพ โดยแนะนำให้รู้อาการอีดีได้ด้วยตนเอง คนไข้ที่มีเบาหวานแอบแฝงจะทราบถึงอันตรายของเบาหวานต่อหัวใจ ไต และตาบอดได้ ถึงแม้ว่ายาเฉพาะกิจช่วยให้คนไข้อีดีตื่นตัวแข็งแรงได้ระยะสั้น หากไม่ได้แก้ไขปัญหาเส้นเลือดของคนไข้อีดีจากเบาหวาน ไขมันสูง ยาเฉพาะกิจจะสู้สภาพเสื่อมของเส้นเลือดไม่ได้

ดังนั้นยาเฉพาะกิจก็จะเริ่มใช้ไม่ได้ผล หลายคนเปลี่ยนไปใช้ยากระตุ้นช่วย ปัจจุบันมีวิทยาการใหม่รักษาเส้นเลือดโดยเฉพาะให้ฟื้นฟูกลับสู่สภาพแข็งแรงเช่นวัยหนุ่มให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ คือใช้คลื่นกระแทกความถี่ต่ำเรียกว่า อีดีช็อกส์เวฟ ปล่อยคลื่นความถี่ต่ำไปที่กล้ามเนื้อเพศ เพิ่มการหมุนเวียนไหลของเลือดได้ดีขึ้น สร้างความพอใจให้คนไข้อย่างมีเหตุมีผล ลดการใช้ยาลง 50%

การรักษาคู่กับโปรแกรมขยายกล้ามเนื้อเพศจะได้ผลดีใน 7-14 วัน บางกลุ่มก็หยุดใช้ยาเฉพาะกิจไป จึงเกิดประโยชน์มากแก่คนไข้อีกกลุ่มที่ไม่สามารถใช้ยาเฉพาะกิจคือกลุ่มคนไข้โรคหัวใจที่ถูกหมอหัวใจห้ามใช้ยาขยายเส้นเลือดหัวใจคู่กับยาเฉพาะกิจ คนไข้โรคหัวใจจึงเป็นคนไข้กลุ่มที่น่าเห็นใจจากอุปสรรคที่ห้ามใช้ยาเฉพาะกิจ เลยอดมีเพศสัมพันธ์แต่วัยที่ยังต้องรับผิดชอบต่อ
ภรรยาวัยสาวกว่า คนไข้โรคหัวใจจึงมีความหวังใหม่ที่จะรักษาอีดีด้วยโปรแกรมฟื้นฟู 7-14 วันได้ช่วยชีวิตคู่อยู่ต่ออย่างมีความหมายเช่นวัย 20-30 ปีอีกครั้ง

———————–
ดร.อุ๋มอิ๋ม