เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. เป็นประธาน มีมติเห็นเห็นชอบปรับมาตรการป้องกันโรคแบบบูรณาการ ให้มีผลนับตั้งแต่ประกาศราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

1.ปรับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร โดยพื้นที่ เฝ้าระวัง (สีเขียว) จากเดิม 14 จังหวัดเพิ่มเป็น 77 จังหวัดทั่วประเทศ ทั้งนี้ให้มีผลนับตั้งแต่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา

2.ขยายเวลาเปิด สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน จากเดิม ไม่เกิน 24.00 น. ของใหม่จ่อขยายไม่เกิน 02.00 น. ต้องนำเรื่องเสนอเข้าที่ประชุม ครม.ก่อน

3.ให้ถอดหน้ากากอนามัยด้วยความสมัครใจในพื้นที่ความเสี่ยงต่ำ ไม่แออัด สถานที่เปิดทั่วประเทศ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมจะรายงานให้ทราบต่อไป

ต่อมา นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.แถลงผลการประชุมศบค.ว่า ที่ประชุมศบค.เห็นชอบปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร ดังนี้

1.พื้นที่เฝ้าระวังจากเดิม 14 จังหวัด เป็น 77 จังหวัดทั่วประเทศ ทั้งนี้ ให้มีผลนับตั้งแต่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
2.ส่วนมาตรการการสวมใส่หน้ากากอนามัย ยกเว้นในกรณีที่อยู่ที่โล่ง ไม่แออัดทำกิจกรรมที่ไม่อาจสวมหน้ากากอนามัยได้ และการประกอบอาชีพที่ต้องใช้การแสดงออกทางใบหน้าการอยู่คนเดียวในพื้นที่ปิดหรือมีฉากกั้น
3.การบริโภคสุราหรือแอลกอฮอล์ในร้านอาหารในพื้นที่เฝ้าระวังสูงและพื้นที่เฝ้าระวัง สามารถเปิดบริการได้ตามปกติโดยต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรครวมทั้งกฎหมายกฎระเบียบหรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง

4.ขณะที่สถานประกอบการประเภทสถานบันเทิง เปิดบริการได้โดยให้ผู้รับบริการดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่เฝ้าระวังโดย เปิดให้บริการตามกฎหมายเดิมกำหนด
5.การเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวสามารถทำได้ตามปกติ
6.การคัดกรองอุณหภูมิไม่มีความจำเป็นต้องคัดกรองอุณหภูมิภายในอาคารสถานที่ แต่อาจจะมีให้คัดกรองอุณหภูมิในสถานที่เสี่ยงหรือพื้นที่ระบาดเท่านั้น
7.การเว้นระยะห่างแนะนำให้มีการเว้นระยะห่างตามความเหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่โรค
8.มาตรการการรวมกลุ่ม ตรวจคัดกรอง ATK กรณีเป็นผู้ป่วยสงสัยที่มีอาการทางเดินหายใจหากมีการรวมกลุ่มมากกว่า 2,000 คนขอให้แจ้งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯ รับทราบเพื่อเฝ้าระวังการระบาด

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า ในข้อที่ 3 และ 4 ที่ประชุมได้ใช้เวลาพอสมควร ตามที่มีกระแสข่าวว่าขอให้สถานบันเทิงเปิดถึงเวลา 02.00 น. ดังนั้นที่ประชุมศบค.มอบให้ฝ่ายกฎหมายพล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ผอ.ศปก.ศบค.) ไปหาข้อสรุปว่าขั้นตอนจะต้องไปดูกฎหมายเก่าว่าจะผ่อนคลายอย่างไร ซึ่งจะต้องไปผ่านกระบวนการและนำเข้าเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ทั้งนี้ นายกฯและผอ.ศบค.ขอให้ทำเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด.