จากกรณีเฟซบุ๊กแฟนเพจของร้าน “Wisdom International Buffet” โพสต์ภาพแชตระหว่างแอดมินของร้านกับผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง พร้อมระบุข้อความว่า ประกาศชี้แจงจากร้าน Wisdom กรณีโดนข่มขู่ว่าจะ “แบนร้านออกจากกลุ่ม Facebook Group ที่มีฐานสมาชิกระดับต้นๆในประเทศไทย เกี่ยวกับผู้ชื่นชอบการรับประทานบุฟเฟ่ต์” จนนักรีวิวคนดังกล่าวถูกชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก ถึงขั้นถูกขุดและทัวร์ลงไปยันเพจคณะมหาวิทยาลัย โดยภายหลัง ตัวแทนแอดมินผู้สร้างกลุ่มดังกล่าว ได้ออกมาโพสต์ขอโทษแทน อีกทั้งทางด้านมหาวิทยาลัยต้นสังกัด ที่แอดมินคนดังกล่าวกำลังศึกษาต่อในระดับดอกเตอร์ ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวว่ากำลังตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น ตามที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

-ม.ดัง รับลูกสั่งเร่งสอบด่วน! หลัง ‘ยอดแอดมินบุฟเฟ่ต์ดัง’ก่อดราม่าเอาไว้

ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ก.ย. แอดมินกลุ่มชื่อดัง ต้นเรื่องดังกล่าว ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผมรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งต่อสิ่งทำไป ทั้งข้อความและกิริยาใดๆก็ตามที่ไม่ดีและไม่เหมาะสม ที่เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบของผม จากการทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น ผมขอโทษและขออภัยร้าน Wisdom International Buffet ผมขอรับความผิดไว้เพียงผู้เดียว และจะนำบทเรียนที่เกิดขึ้นครั้งนี้มาปรับปรุงแก้ไข และระมัดระวังคำพูดและการกระทำต่างๆ ในอนาคตให้มากขึ้น ขออภัยต่อทุกท่านที่ได้ผลกระทบจากการเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วยครับ”

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นแอดมินกลุ่มดัง ยังได้เปิดเผยกับรายการ​ “เรื่องเด่นเย็นนี้ ช่อง 3” ว่า “ผมมีอำนาจในการแบน หมายถึง ผมจะไม่โพสต์ว่าทางร้านอาหารไม่ดีอย่างไร แต่ผมจะไม่ให้ใครที่เขียนเกี่ยวกับทางร้านมาอยู่ในเพจ ซึ่งก็คือไม่อนุมัติ” อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุ ผมต้องขออภัยจริง ๆ เพราะทำไปด้วยอารมณ์ร้อน ยืนยันว่าไม่เคยไปเบ่งทานฟรีตามที่กล่าวอ้าง เพราะตอนแรกคิดว่าทางร้านพูดคุยตกลงจนเข้าใจแล้วว่ามารีวิวกัน 4 คนทั้งที่มีวอยเชอร์ 2 ใบ แต่ภายหลังกลับมาคิดเงิน ก็ยอมจ่ายเงินโดยใช้บัตรเครดิต ก็คิดว่าไม่มีปัญหาอะไร ไม่คาดคิดว่า ทางเพจจะเอาข้อความมาโพสต์ให้เกิดเป็นเรื่องราวเช่นนี้

อย่างไรก็ตามหลักตกเป็นข่าว ปรากฏว่ามีผลกระทบกับชีวิตส่วนตัวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะทางมหาวิทยาลัยที่กำลังศึกษาในระดับปริญญาเอก มีการกล่าวหาว่าตนไปเบ่งกินฟรี กล่าวหาว่าตนเอา วอยเชอร์ฟรีไปขาย ซึ่งยืนยันว่าไม่เคยไปกระทำเช่นนั้น ทั้งนี้ทางคณะที่นายสันติกำลังศึกษาอยู่นั้นได้โพสต์ชี้แจงระบุว่า เรื่องนี้ทางมหาวิทยาลัยได้รับทราบแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง และต้องแยกแยะระหว่างเรื่องส่วนตัวด้วย…