เมื่อวันที่ 4 เม.ย. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีกรรมาธิการการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร แถลงข้อมูลมีบริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดตากขายกากแร่สังกะสีและกากแร่แคดเมียมที่ฝังกลบในจังหวัดตาก ให้กับบริษัทหนึ่งที่ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร จำนวนกว่าหมื่นตัน ว่า เรื่องนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้นำทีมตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว โดยมีสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สมุทรสาคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย ล่าสุดได้รับรายงานจาก นพ.สุรวิทย์ ศักดานุภาพ นายแพทย์สสจ.สมุทรสาคร ว่า จากการตรวจสอบพบบริษัทดังกล่าวได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการโรงงานเกี่ยวกับการหล่อและหลอมโลหะประเภทต่างๆ 3 โรงงาน โรงงานแห่งแรก พบกากแคดเมียมและกากสังกะสีในถุงบิ๊กแบ็กสีขาวในโรงงาน 1,300 ถุง และนอกโรงงานอีก 100 ถุง แห่งที่ 2 ที่อยู่บริเวณเดียวกัน พบกากอลูมิเนียมอยู่ภายในโรงงาน และมีกากแคดเมียมและกากสังกะสีอยู่นอกโรงงาน 9 ถุง ส่วนแห่งที่ 3 พบกากแคดเมียมและกากสังกะสีอีก 227 ถุง อยู่ภายในโรงงาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้เคลื่อนย้ายกากแคดเมียมและกากสังกะสีที่อยู่ภายนอกไปเก็บไว้ในโรงงานทั้งหมดแล้ว โดยกรมควบคุมมลพิษตรวจสอบพบว่ากากแคดเมียมและกากสังกะสีมีการผสมด้วยปอร์ตแลนด์ซีเมนต์ 30% เพื่อทำลายฤทธิ์และอยู่ในสถานะแข็งตัว หากเก็บไว้ในสถานที่มิดชิดและไม่มีการชำระล้าง จะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า ในด้านการดูแลผลกระทบทางสุขภาพ สสจ.จังหวัดสมุทรสาคร ร่วมกับรพ.สมุทรสาคร ตรวจคัดกรองสุขภาพของพนักงานในโรงงานจำนวน 11 ราย แบ่งเป็น คนไทย 8 ราย และต่างด้าว 3 ราย โดยซักประวัติตามแบบฟอร์มการสัมผัสสารโลหะหนักแคดเมียม ตรวจสัญญาณชีพเบื้องต้น ไม่พบความผิดปกติ แพทย์ได้ตรวจร่างกายและเก็บปัสสาวะส่งตรวจหาสารแคดเมียม ซึ่งจะทราบผลภายใน 1 สัปดาห์ และให้บริษัทนัดหมายพนักงานที่เหลือเข้ารับการตรวจสุขภาพกับรพ.สมุทรสาครโดยเร็ว นอกจากนี้ จะร่วมกับชุมชนในพื้นที่เร่งค้นหาผู้ที่ได้รับผลกระทบในบริเวณสถานที่ข้างเคียงที่มีอาการที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีดังกล่าวต่อไป ขณะที่กรมควบคุมมลพิษได้ทำการเก็บตัวอย่างน้ำในโรงงานและบริเวณโดยรอบส่งตรวจหาสารปนเปื้อนด้วย จะทราบผลใน 2 สัปดาห์.