จากกรณีหนุ่มโพสต์เรื่องราวสุดสะเทือนใจเกี่ยวกับคนในครอบครัว หลังสสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี ส่งจดหมายให้ คุณอา ที่เสียชีวิตจากโควิด-19 ให้ไปฉีดวัคซีนด่วนถึง 2 ฉบับ วอนแม้เป็นเรื่องเล็ก แต่เจ้าหน้าที่ควรตรวจสอบก่อน ส่งด้วย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

คืบหน้าเมื่อวันที่ 19 ก.ย. ผู้สื่อเดินทางไปพบกับ นายณัฐพงษ์ หรือต้อง โห้เฉื่อย อายุ 36 ปี เจ้าของโพสต์ที่ระบายข้อความอันยาวเหยียดในโลกออนไลน์ โดยเปิดเผยความในใจที่อัดอั้นหลังสูญเสียคุณอา วัย 66 ปี จากการติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 64 ที่ผ่านมา ว่า ก่อนหน้านี้คนที่บ้านป่วยโควิดทั้งบ้านแล้วเข้ารักษาโรงพยาบาล ก่อนอาจะเสียชีวิตไป 1 คน เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ปรากฏว่ามีหนังสือฉบับแรก ลงนามไว้ว่าวันที่ 19 ส.ค.ให้ไปฉีดวัคซีน โดยจั่วหัวว่าด่วนที่สุด ซึ่งคนในครอบครัวพยายามจะลงทะเบียนเพื่อให้ได้รับวัคซีนให้ไวที่สุด แต่วันที่ได้รับหนังสือคือวันที่อยู่โรงพยาบาล และอาได้เสียชีวิตไปเรียบร้อย พอเสียชีวิตก็ส่งมาให้ไปฉีดวันที่ 28 ส.ค. ตนคิดว่าระบบมันคงยังไม่ได้รันเพราะคนเสียชีวิตและคนป่วยเยอะ ก็ปล่อยผ่านไปแต่ปรากฏว่าเมื่อวานกลับมาจากที่ทำงาน ที่บ้านนำจดหมายมาให้ดูทุกคนส่ายหัวแล้วไม่พอใจ เพราะว่าตลอดเวลา 1 เดือนที่ผ่านมาสภาพที่บ้านไม่ปกติ เจ็บปวดและเสียใจกับโรคโควิด มาตลอด ต่อมามีจดหมายฉบับที่ 2 เป็นชื่อผู้เสียชีวิตคนเดิมส่งมามีการเซ็นลงนามว่าวันที่ 13 ก.ย. ในจดหมายก็อปปี้ข้อความมาวางแต่เปลี่ยนแค่วันที่บอกว่าให้ไปฉีดวัคซีนตามที่แจ้งให้เร็วที่สุด

สุดสะเทือนจิตใจ สสจ.นนท์ ส่งจดหมายให้ ‘คนตาย’เพราะโควิดไปฉีดวัคซีน!

“ผมพูดไม่ถูกเลย อาเสียชีวิตไปประมาณเดือนกว่าแล้ว กลับมีจดหมายแบบนี้ส่งมา ก็เลยมาคิดใหม่ว่าคงพึ่งพาอะไรไม่ได้ ต้องพึ่งพาตัวเอง หลังจากได้จดหมาย ย้อนกลับไปคิดถึงวันนั้น ทุกคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเล็ก ทุกวันนี้ผมนอนไม่หลับ (น้ำตาซึม) พอมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ผมเลยโพสต์ที่สาธารณะ เพราะว่ามันไม่สมควรจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ถ้ากระทรวงสาธารณสุขใส่ใจนิดนึงเข้าไปดูในทะเบียนราษฎร์ ทุกครั้งที่มีการแจ้งตายโรงพยาบาลเป็นคนออกใบมรณะที่อำเภอ คิดว่าทุกอย่างก็ต้องจบ ปรากฏว่ายังมีจดหมายแบบนี้ส่งมาอยู่ และยังส่งจดหมายฉบับนี้มาอีกเหมือนมาตอกย้ำ เจ้าหน้าที่รัฐควรจะซิงค์ข้อมูลกันเพราะว่ามันไม่ได้ยากเลย คุณไม่ได้เห็นหัวประชาชน บางคนอาจจะมองว่าเป็นจดหมายแค่ฉบับเดียว แต่มันเป็นเรื่องของความรู้สึก บางคนไม่เจอกับตัวไม่รู้ พอจะทำใจได้กลับมาเจอจดหมายแบบนี้ อีกเป็นฉบับที่ 2 ผมรู้สึกสิ้นหวังกับประเทศนี้ จากการบริหารวัคซีนของรัฐบาลการดูแลสวัสดิการประชาชน ทุกวันนี้ต้องเยียวยาจิตใจกันเอง” นายนัฐพงษ์ กล่าว