เมื่อวันที่ 22 ต.ค. นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตามภารกิจดูแลภาคใต้ ให้สัมภาษณ์ถึงความไม่ลงตัวในการวางตัวผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง แทนนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง และอดีตรองหัวหน้าพรรคว่าส่วนตัวยังไม่ได้คุยกับนายนิพิฏฐ์ เนื่องจากต้องหารือกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ก่อน เนื่องจากนายเฉลิมชัยเป็นผู้ดำเนินการประสานงานนายนิติศักดิ์ ธรรมเพชร ลูกชายของนายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พัทลุง เรื่องทาบทามลงสมัคร ส.ส.พัทลุง ส่วนตนจะพูดคุยกับนายนิพิฏฐ์เมื่อไหร่นั้น ยังไม่ได้นัดกัน แต่ต้องพูดคุยแน่นอน ทั้งนี้เรื่องในครอบครัวเป็นสิ่งที่คุยกันได้อยู่แล้ว

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวสรุปใจความคือเชื่อมั่นพรรคประชาธิปัตย์จะมีกระแสที่ดีขึ้นตามลำดับ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นคนหนึ่งที่ร่วมชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป เนื่องด้วยเหตุผลหลายข้อ อาทิ สถานการณ์การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมามีกระแส “เลือกความสงบ จบที่ลุงตู่” แต่วันนี้ชัดเจนว่าความสงบที่ยั่งยืนต้องเกิดจากบ้านเมืองที่เป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเท่านั้น, หากใช้ระบบการเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ เลือกคนที่รัก เลือกพรรคที่ชอบ พรรคเฉพาะกิจคงหายไปจำนวนมาก, พรรคประชาธิปัตย์แสดงให้เห็นสามารถขับเคลื่อนนโยบายว่าทำได้ไวทำได้จริง เช่น นโยบายด้านเศรษฐกิจ นโยบายทางการเมืองที่มุ่งมั่นแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น, ประชามติหลายสำนักสนับสนุนให้นายจุรินทร์ เป็นผู้ที่เหมาะสมเป็นนายกฯ, พรรคประชาธิปัตย์อยู่ในช่วงปรับปรุงพัฒนาในทุกด้านตามยุทธศาสตร์ 3 ขา ขารัฐมนตรี ขาพรรค และขา ส.ส.ในสภาฯ

ขณะที่นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กสรุปว่า ในอดีต พรรคประชาธิปัตย์เคยเป็นความหวังของคนรุ่นใหม่ในยุคนั้น แต่ทุกวันนี้สถานการณ์การเมืองเปลี่ยนไป ทำให้หลายคนที่เคยอยู่ หลายคนที่เคยร่วมยึดในอุดมการณ์ และประชาชนหลายคนที่เคยคาดหวังอาจไม่ได้รู้สึกแบบนั้น เพราะการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้เป็นไปตามปัจจุบันของพรรคประชาธิปัตย์

“ถึงผมจะรู้สึกเสียดายที่ใครหลายคนต้องออกไปจากพรรคฯ แต่ทุกคนต่างออกไปแสดงออกจุดยืนของตัวเอง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีทุกการเปลี่ยนแปลง (ที่เป็นการพัฒนาไปในทิศทางที่ดี) ย่อมมีแต่สิ่งดีๆ เสมอ” นายพนิต ระบุ