เมื่อวันที่ 31 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ การชุมนุมกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่นัดหมายกิจกรรม ‘ราษฎรประสงค์ยกเลิก 112’ บริเวณแยกราชประสงค์ ว่า ช่วง 17.00 น. ที่ผ่านมา เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่กิจกรรมการชุมนุมก็ยังคงดำเนินต่อไป แม้มวลชนบางส่วนจะทยอยออกจากพื้นที่เข้าไปหลบฝนตามห้างสรรพสินค้า

ต่อมาเวลา 18.20 น. น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง พร้อมตัวแทนจากกลุ่มต่างๆ ร่วมอ่านแถลงการณ์คณะราษฎรยกเลิก 112 ใจความว่า ตั้งแต่ปี 2563 คณะราษฎร ประกาศข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และองคาพายพต้องลาออก,ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และปฏิรูปสถาบัน ซึ่งจะนำไปสู่ประชาธิปไตยที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน ทุกคนเสมอภาคและเป็นเจ้าของประเทศร่วมกัน โดยข้อเสนอดังกล่าว มีความห่วงใยที่จะแก้ไขปัญหาบ้านเมือง รวมถึงเป็นการตั้งคำถามถึงการเชิดชูตัวบุคคล แต่ผู้ที่ออกมาเรียกร้องการแก้ไขดังกล่าว กลับถูกจับกุมคุมขังไม่ว่าจะเป็นนักเรียนนักศึกษา นักการเมือง แม่ค้าพยาบาลและราษฎร ปัญหาทางการเมืองดังกล่าวไม่สามารถเก็บไว้ได้อีกต่อไป

น.ส.ปนัสยา กล่าวต่อว่า เวลานี้ มีราษฎรถูกดำเนินคดีมากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน ที่ถูกกล่าวหาด้วย ม.112 มากถึง 21 คดี ซึ่งเพนกวิน ยังคงถูกคุมขังในเรือนจำ กฎหมาย ม.112 เป็นกฎหมายล้าหลัง ทำลายการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นเครื่องมือรักษาอำนาจการปกครองของอภิสิทธิชนมาอย่างยาวนาน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนจำเป็นต้องร่วมแรงร่วมใจยกเลิกกฎหมายนี้ ทั้งนี้ คณะราษฎร มีข้อเรียกร้ององค์กรตุลาการ ดังนี้ 1.ให้สิทธิประกันตัวและปล่อยตัวผู้ต้องขังทุกคนออกจากเรือนจำ 2.แก้ไขกฎหมายอาญา เพื่อยกเลิก ม.112 โดยพวกเราจะต่อสู้เพื่อเสรีภาพ ภราดรภาพ

ภายหลังเสร็จสิ้นเสร็จแถลงการณ์ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง ได้นำเอาใบมีดคัตเตอร์มากรีดแขนตัวเองเป็นตัวเลข 112 เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในการต่อต้านการบังคับใช้กฎหมายมาตรา 112 อีกด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายหลังจากฝนหยุดตก ผู้คนเริ่มทยอยกลับเข้ามาร่วมกิจกรรมชุมนุมเพิ่มขึ้นอย่างต่อ ทำเอาพื้นที่ถนนถนนราชดำริตั้งแต่ช่วงแยกราชประสงค์จนถึงบริเวณสกายวอล์คหน้าห้างบิ๊กซีราชดำริเต็มไปด้วยกลุ่มมวลชนเนืองแน่นเต็มพื้นที่ ก่อนที่แกนนำจะประกาศยุติชุมนุมเมื่อเวลา 20.20 น.