สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. เกี่ยวกับความคืบหน้าหลังไต้ฝุ่น “ราอี” หรือพายุ “โอเดตต์” ตามที่เรียกกันในท้องถิ่น ซึ่งเป็นพายุลูกที่ 15 ของปีนี้ ที่พาดผ่านฟิลิปปินส์ โดยขึ้นฝั่งที่เกาะซิอาร์เกา ในเขตของจังหวัดซูรีเกาเดลนอร์เต อยู่ทางตอนเหนือของเกาะมินดาเนา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ด้วยความเร็วลมในระดับที่ถือว่า เป็นพายุซึ่งมีกำลังรุนแรงสุดในปีนี้ ที่พาดผ่านฟิลิปปินส์นั้น
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 75 ราย พบมากที่สุดอย่างน้อย 49 ราย ในจังหวัดโบโฮล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะวิซายัส ที่เป็นหมู่เกาะหลัก 1 ใน 3 แห่งของฟิลิปปินส์ ร่วมกับหมู่เกาะลูซอนและหมู่เกาะมินดาเนา ขณะที่กองทัพฟิลิปปินส์เดินหน้าส่งสิ่งของจำเป็นทางเรือเข้าสู่พื้นที่ประสบภัย
ด้านรายงานของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ ในกรุงมะนิลา ระบุว่า ไต้ฝุ่นราอีซึ่งก่อตัวในทะเลจีนใต้ เคลื่อนตัวต่อไปยังเวียดนามแล้ว นอกจากเป็นพายุรุนแรงที่สุดในปีนี้แล้ว ยังสร้างความเสียหายมากที่สุดให้แก่ฟิลิปปินส์ นับตั้งแต่ไต้ฝุ่น “ไห่เยี่ยน” หรือ “โยลันดา” ถล่มฟิลิปปินส์ เมื่อปี 2556 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 6,300 ราย และสูญหายอีกมากกว่า 1,700 คน
ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในประเทศที่ตั้งอยู่บนเขต “วงแหวนไฟแห่งแปซิฟิก” ซึ่งเป็นการเรียงตัวของรอยต่อเปลือกโลกเป็นแนวคล้ายเกือกม้า จึงเผชิญกับภัยธรรมชาติบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นภูเขาไฟปะทุ แผ่นดินไหว และพายุ ที่โดยเฉลี่ยต่อปี ฟิลิปปินส์เผชิญกับพายุประมาณปีละ 20 ลูก.
เครดิตภาพ : AP