เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 65 นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี สมาชิกพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า เปิดประเทศ ฟื้นเศรษฐกิจ ต้องเร็ว อย่ามัวแต่มึนๆ กันอยู่ ขอยกเลิกไทยแลนด์พาส ผับบาร์กรุงเทพฯ ลุ้นเปิดได้ ร้านอาหารขอเปิดเกินห้าทุ่ม ร้านอาหารต่างจังหวัดขอขายเหล้าเบียร์ได้ อาจไม่บังคับใส่หน้ากากบางสถานที่ บลาๆๆๆ มีข่าวแบบนี้มาเป็นเดือนๆ แล้ว…

ขณะที่รัฐบาลพูดถึงการประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นในเร็วๆ นี้ และหน่วยงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและวงการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวก็คาดหวังว่าเศรษฐกิจไทยจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งในและจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นมากในปีนี้ แต่กลับไม่มีความชัดเจนในการปลดล็อกมาตรการต่างๆ

ต้องรอให้เรียกร้องกันทีละเรื่องสองเรื่อง ในเมืองท่องเที่ยวแต่ละเมือง แต่ละจังหวัด ก็เข้มงวดผ่อนคลายไม่เท่ากัน ลักลั่น ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของนักท่องเที่ยวทำให้ไม่อยากมาเมืองไทย และนักธุรกิจท่องเที่ยวก็ไม่กล้าวางแผน เสียโอกาสไปตามๆ กัน

ประเทศอื่นเขาไปถึงไหนกันหมดแล้ว รัฐบาลประยุทธ์ยังมัวแต่มึน ๆ กันอยู่อย่างนี้ จะไปแข่งกับใครเขาได้

ทำไมไม่จัดประชุมผู้รับผิดชอบด้านสาธารณสุขและด้านเศรษฐกิจ พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและตัวแทนผู้ประกอบการการท่องเที่ยวให้รู้เรื่องชัดเจนไปเสียเลย

ตั้งคำถามเสียใหม่ แทนที่จะถามว่าจะผ่อนคลายอะไรได้ เมื่อไหร่ เปลี่ยนเป็นถามว่า “ทางฝ่ายรัฐเห็นว่ายังมีมาตรการอะไรที่จำเป็นยิ่งยวดที่ต้องคงไว้บ้าง?”

นอกนั้นก็ถือว่ายกเลิกให้หมด แล้วก็สั่งการให้จังหวัดต่างๆ ปฏิบัติอย่างเดียวกัน จังหวัดไหนจะเข้มงวดเป็นพิเศษในเรื่องใดต้องชี้แจงแสดงเหตุผลให้ผู้รับผิดชอบดูแลมาตรการของ ศบค.พิจารณาเสียก่อน

ถ้าทำอย่างนี้ก็จะเกิดความชัดเจนแก่ทุกฝ่าย เปิดประเทศ ฟื้นเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เพื่อไม่ประมาท ในการผ่อนคลายครั้งใหญ่นี้ ควรเร่งฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่ม 608 ต่อไปโดยถือเป็น Top priority ของการป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดจากโควิด ทุกฝ่ายก็จะสบายใจ

อีกอย่างหนึ่งผู้ประกอบการ คนทำงานในธุรกิจท่องเที่ยวมีปัญหาสะสมอยู่มากที่ไม่ได้รับการแก้ไขจากหน่วยงานของรัฐและรัฐบาล ที่เขาสะท้อนให้ฝ่ายค้านฟัง เช่น ขาดแคลนแรงงาน ไม่มีทุน ภาษีแพง หนี้สินล้นพ้นตัว บางที่มีปัญหาขยะล้นเมือง โรงแรมจำนวนมากผิดกฎหมายอาคารและผังเมือง ไม่มีทางออก ทำให้เข้าระบบไม่ได้และต้องส่งส่วย ฯลฯ อีกมาก

“ถ้าจะฟื้นเศรษฐกิจได้จริง ต้องรีบรวบรวมปัญหาแล้วแก้ไขอย่างจริงจังครับ”