ฟอร์ด มัสแตง รถสปอร์ตระดับตำนานอีกรุ่นของโลกที่มีอายุการผลิตยาวนานกว่า 57 ปี สำหรับ ฟอร์ด ประเทศไทย เพิ่งจะนำเจ้าม้าป่าเข้ามาขายเมื่อปลายปี 2018 จนถึงปัจจุบัน มีให้เลือก 2 รุ่น คือ รุ่น 2.3 แอล อีโคบูสต์ คูเป้ เพอร์ฟอร์แมนซ์ แพ็ก ราคา 3.699 ล้านบาท และ รุ่น 5.0แอล วี8 จีที คูเป้ เพอร์ฟอร์แมนซ์ แพ็ก ซึ่ง “เดลินิวส์” ได้นำมาลองขับในอาทิตย์นี้

ฟอร์ด มัสแตง มีให้เลือก 4 สี คือ ส้ม ฟ้า แดง และสีเทาเฉดใหม่ชื่อว่า “คาร์บอนไนซ์ เกรย์” ด้านรูปทรงเป็นแบบสปอร์ตสไตล์อเมริกันที่เรียกว่า “มัสเซิล คาร์” รถที่รูปทรงช่วงหน้ายาวแต่มีช่วงท้ายสั้นเหมาะสำหรับการใส่เครื่องยนต์ขนาดใหญ่อย่าง วี6 หรือ วี8 สูบ เมื่อเดินดูรอบ ๆ ตัวรถก็ชวนให้นึกถึงมัสแตงรุ่นที่ 1 และ 2 มาก (ส่วนรุ่นที่ 3-4 เรื่องรูปทรงต้องเรียกว่าออกทะเลไปไกลมากพอมารุ่นที่ 5 ก็เริ่มกลับมาเข้าที่เข้าทาง จนมาเรียกได้ว่าลงตัวในรุ่นที่ 6 โฉมปัจจุบัน) จะเห็นได้จากลักษณะของฝากระโปรงหน้าแบนราบ พร้อมช่องระบายอากาศคู่ในตัวและกระจังหน้าที่งุ้มต่ำลงสไตล์หน้าฉลามกับชุดไฟหน้าดูเกรงขาม กันชนหน้าติดตั้งสปลิตเตอร์หรือลิ้นหน้าขนาดใหญ่เพิ่มแรงกดช่วงหน้าของตัวรถให้ยึดเกาะถนนได้อย่างมั่นคงยิ่งขึ้น ช่วงหลังคาและท้ายรถทรงฟาสต์แบ็ค

เฉพาะรุ่นจีทีใส่สปอยเลอร์หลังมาให้ด้วย ไฟท้ายทรง 3 แถว เอกลักษณ์ของ ฟอร์ด มัสแตง ใต้กันชนหลังติดดิฟฟิวเซอร์และปลายท่อคู่ซ้าย/ขวา พร้อมชุดไฟตัดหมอกและไฟถอยหลัง ล้อแม็กรุ่นจีทีด้านหน้าใช้ขนาด 19×9 นิ้ว พร้อมชุดดิสก์เบรกหน้าแบบ 6 พอตของเบรมโบ้ ล้อหลังขนาด 19×9.5 นิ้ว ดิสก์เบรก 1 พอต ส่วนยางด้านหน้าขนาด 255/40ZR19 หลังขนาด 275/40ZR19 ภายในห้องเก็บสัมภาระมีความจุมากถึง 408 ลิตร สามารถใส่กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ได้สบาย แถมเบาะหลังยังพับลงได้แบบ 50/50 ทำให้มีพื้นที่ยาวพอจะวางถุงกอล์ฟได้ 2 ใบสบาย ๆ

ภายในห้องโดยสารติดตั้งเบาะนั่งแบบ 2+2 ความรู้สึกแรกเลยที่เข้าไปนั่งในห้องโดยสารคือไม่คุ้มราคาเลย อย่างเบาะคู่หน้าก็ปรับไฟฟ้าได้แต่สูงต่ำใกล้ไกลและดันหลัง แต่พนักพิงจะปรับแบบกลไกและการพับพนักพิงเบาะคู่หน้าเพื่อเข้าไปนั่งหลังก็ยังทำได้ยาก เพราะคันโยกติดตั้งตรงกลางพนักพิงใช้งานไม่สะดวก แผงคอนโซลหน้าที่ควรหุ้มหนังเย็บตะเข็บเชือกให้เรียบร้อยก็เป็นเพียงไวนิลหล่อดุนลายหลอกตาให้ดูเหมือนเป็นตะเข็บเชือกเท่านั้นเอง แต่ส่วนที่น่าชื่นชมก็ยังมีอยู่เช่น ชุดหน้าปัดที่ใช้แบบจอภาพปรับรูปแบบการแสดงผลได้หลากหลาย

แผงหน้าปัดแสดงผลดิจิทัลขนาด 12.4 นิ้ว แสดงข้อมูลเหมาะสมกับโหมดขับขี่และยังช่วยให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสประสบการณ์ยอดเยี่ยม นอกจากนี้เมื่อใช้งานฟีเจอร์ Electronic Line Lock ผู้ขับขี่ยังจะเห็นแอนนิเมชั่นแบบวิดีโอเกมเป็นครั้งแรกบนหน้าจออีกด้วย มาพร้อมระบบเชื่อมต่อการสื่อสารและความบันเทิงภายใน SYNC3 รองรับทั้งแอปเปิลคาร์เพลย์และแอนดรอยด์ ออโต้ พร้อมเชื่อมต่อและควบคุมสมาร์ทโฟน ระบบเครื่องเสียง Bang & Olufsen คุณภาพเสียงระดับพรีเมี่ยม พร้อมลำโพง 12 จุด พร้อมทั้งระบบนำทางระบบปรับอากาศที่รองรับการสั่งงานด้วยเสียงและการสัมผัสบนหน้าจอ ทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ที่ให้เป็นจอแสดงภาพของกล้องมองหลังอีกด้วย

ภายใต้ฝากระโปรงหน้าของมัสแตง จีที ถูกวางไว้ด้วยเครื่องยนต์แบบ วี8 สูบ 5 ลิตร กำลังสูงสุดถึง 449 แรงม้า ที่ 7,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 529 นิวตันเมตร ที่ 4,600 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ10 สปีดไปยังล้อหลังผ่านชุดเฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิป พร้อมโหมดการขับขี่รูปแบบต่าง ๆ มาพร้อมโหมดการขับขี่ 6 รูปแบบเพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ปรับการควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว การตอบสนองของคันเร่งรูปแบบการเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ น้ำหนักพวงมาลัย และการทำงานโหมดปรับระดับความดังของชุดท่อไอเสีย Active Valve Performance Exhaust System ให้เหมาะกับการขับขี่แบบต่าง ๆ ได้แก่ โหมดปกติ สร้างความสมดุลระหว่างความสะดวกสบายและการตอบสนองที่ฉับไวเพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้น, โหมดสปอร์ต ปรับการทำงานของคันเร่งและระบบบังคับเลี้ยวให้ตอบสนองเร็วขึ้นรวมถึงปรับการเปลี่ยนเกียร์ที่รอบสูงขึ้นเปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่สัมผัสสมรรถนะในการขับขี่บนเส้นทางที่คดเคี้ยวได้อย่างเต็มพลัง

โหมดแทร็คออกแบบมาเพื่อนักขับตัวจริงที่ต้องการเข้าไปโลดแล่นในสนามแข่งซึ่งตัวรถจะต้องตอบสนองผู้ขับขี่ได้อย่างเต็มที่ระบบเสถียรภาพการทรงตัวจึงถูกปิดการทำงาน และมีการปรับคันเร่งให้ไวยิ่งขึ้นเพื่อให้ผู้ขับขี่รีดสมรรถนะได้ถึงขีดสุด, โหมดหิมะ/พื้นเปียก ช่วยให้การควบคุมรถง่ายขึ้นเมื่อพื้นผิวถนนลื่นระบบจะควบคุมให้การตอบสนองของคันเร่งช้าลงเพื่อป้องกันล้อหมุนฟรีโดยที่ผู้ขับขี่ยังสัมผัสกับสมรรถนะได้เต็มที่, โหมดแข่งทางตรงเพื่อการขับขี่อย่างเต็มที่บนทางตรงระบบจะช่วยให้รถออกตัวได้เร็วกว่าปกติ ด้วยการลดช่วงเวลาการเปลี่ยนเกียร์ทำให้แรงบิดถูกส่งออกมาอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มการยึดเกาะถนนขณะออกตัว โหมด My Mode ให้ผู้ขับขี่เลือกตั้งค่าสมรรถนะการขับขี่และเสียงท่อไอเสียได้ตามต้องการ

นอกจากนี้ระบบเสริมแรงของพวงมาลัยก็ยังสามารถปรับแต่งน้ำหนักได้ 3 รูปแบบได้แก่แบบคอมฟอร์ต พวงมาลัยมีน้ำหนักเบาขึ้นเหมาะสำหรับการขับขี่ทางไกล แบบปกติเหมาะกับการใช้ในชีวิตประจำวัน และแบบสปอร์ต พวงมาลัยจะมีน้ำหนักมากขึ้นเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ขณะใช้ความเร็วสูง

สำหรับเรื่องพละกำลังก็ไม่มีอะไรต้องบรรยายอะไรกันมาก เพราะเลือดลมฉีดพล่านขึ้นมาทุกครั้งที่เท้ากระแทกคันเร่ง แต่ก็ต้องแลกมากับอัตรากินน้ำมัน 6-7 กม./ลิตร และอีกจุดที่ต้องคอยระวังก็คือทัศนวิสัย โดยเฉพาะเมื่อต้องขับซอกแซกไปในซอยแคบ ๆ นั้นไม่ง่ายเลย เพราะด้วยลักษณะของตัวรถที่มีส่วนหน้ายาวและคอนโซลยกสูงทำให้ต้องกะระยะและเผื่อวงเลี้ยวเยอะกว่ารถสปอร์ตค่ายยุโรป ส่วนระบบช่วงล่างถ้าวิ่งบนถนนเรียบจะหนึบหนับยึดเกาะถนนที่มาก และในขณะเดียวกันก็เก็บอาการกระเด้งกระดอนจากพื้นถนนที่ไม่เรียบได้อย่างครบถ้วนเช่นกัน โดยรวมในบรรดารถสปอร์ตราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท ก็ไม่มีรถรุ่นไหนที่จะมีหน้าตาหล่อคมเท่และทรงพลังเท่ากับฟอร์ด มัสแตง จีที อีกแล้ว.