นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยความคืบหน้าการเปิดจุดจำหน่ายโครงการสลาก 80 ว่า ขณะนี้สำนักงานสลากฯ มีการเปิดร้านจำหน่ายสลาก 80 ได้แล้ว 362 จุด ทั้งในกรุงเทพมหานคร ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนที่ภาคเหนือ และภาคใต้ ได้ทำสัญญาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะทำให้มีจุดจำหน่ายสลาก 80 กระจายถึง 600 แห่ง ครบทุกจังหวดทั่วประเทศในงวดวันที่ 1 ก.ค.65

นอกจากนี้ ยังมอบหมายในที่ประชุมคณะกรรมการสลากฯ ให้ประสานนำเทคโนโลยีกูเกิลแม็พ มาใช้ปักหมุด กำหนดจุดจำหน่ายร้านสลาก 80 ครบทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์ให้ร้านจำหน่ายสลาก 80 ได้เป็นที่รู้จัก และทำให้ประชาชนสามารถเดินทางไปหาซื้อสลากฯ ได้ง่ายขึ้น จากปัจจุบันที่ในเว็บไซต์สำนักงานสลากฯ จะมีแจ้งแค่ข้อมูลชื่อร้าน และที่อยู่ร้านสลาก 80 เท่านั้น ซึ่งอาจทำให้ผู้ซื้อบางรายที่ไม่คุ้นเคยพื้นที่ อาจไม่รู้จักหรือเข้าถึงสลาก 80 บาทได้ยาก

“การนำเทคโนโลยีกูเกิลแม็พมาใช้ กำหนดจุดร้านสลาก 80 จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ประชาชนได้เข้าถึงสลากฯ ราคาเป็นธรรม 80 บาทได้ง่ายขึ้น เพียงแค่คลิกเดียวก็จะบอกเส้นทางไปยังร้านสลากฯ ที่ใกล้ที่สุด อีกทั้งยังเป็นการส่งการขายให้กับร้านค้าที่ทำดีอีกด้วย โดยจะมีการซื้อขายสลากฯ ใบละ 80 บาท ผ่านแอพเป๋าตังและถุงเงิน ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายแนวทางที่สำนักงานสลากฯ ทำออกมาเพื่อแก้ปัญหาสลากฯ เกินราคา”

นายลวรณ กล่าวถึงแผนการเปิดร้านสลาก 80 ให้ครบเป้าหมาย 1,000 แห่งทั่วประเทศว่า สำนักงานสลากฯ จะมีการนำรายชื่อสำรอง ตัวแทนจำหน่ายที่สมัครเข้าร่วมสลาก 80 มาทำการคัดเลือกเข้าโครงการเพิ่มเติม หลังจากที่ผ่านมามีบางอำเภอในบางจังหวัด ที่ไม่ได้สมัครเข้าร่วม เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ห่างไกล ซึ่งอาจไม่สะดวกที่จะเข้าร่วมมาตรการ จึงจะเปิดโอกาสให้บางอำเภอที่มีร้านสลาก 80 อยู่แล้วเข้ามาร่วมเพิ่มเติมได้

“เชื่อว่าภายในเดือน ก.ค. สำนักงานสลากฯจะสามารถคัดเลือกร้านสลาก 80 เพิ่มเติมจนครบ 1,000 แห่งตามเป้าหมาย ซึ่งจะทำให้ร้านสลาก 80 ทั่วประเทศ มีสลากฯ ใบละ 80 บาท จำหน่ายมากถึง 2.5 ล้านใบ และเมื่อรวมกับการขายสลากดิจิทัล ผ่านแอพเป๋าตังที่จะเริ่มวันที่ 2 มิ.ย.นี้ จะทำให้มีสลากฯ ใบละ 80 บาท วางจำหน่ายในตลาดได้มากถึง 7.5 ล้านใบ”

นายลวรณ กล่าวว่า เบื้องต้น สำนักงานสลากฯ ประเมินว่า การนำร่องจำหน่ายร้านสลาก 80 และสลากดิจิทัล ในปริมาณนี้ถือว่ามีความเหมาะสม ส่วนในอนาคตจะเพิ่มสลากดิจิทัล หรือร้านสลาก 80 อีกหรือไม่นั้น จะต้องดูหากตลาดมีความต้องการมาก ก็จะพิจารณา แต่จะทำให้เกิดความสมดุลของตลาดระหว่างผู้ขายแบบเก่า กับร้านจำหน่ายแบบดิจิทัล ให้อยู่ร่วมกันได้ ซึ่งขณะนี้ ผู้ค้าที่ลงทะเบียนรอขายสลากดิจิทัลไว้อีกถึง 6 หมื่นราย ส่วนโครงการลงทะเบียนผู้ซื้อจองล่วงหน้านั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบคุณสมบัติให้ครบถ้วนต่อไป