รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งว่า ขณะนี้กลุ่มธุรกิจการซ่อมบำรุงรถจักรและล้อเลื่อน รฟท. ได้ดำเนินการปรับปรุง และทำสีภายนอกตัวรถไฟดีเซลราง Kiha 183 เสร็จเรียบร้อยแล้ว 1 คัน ส่วนคันที่ 2 คาดว่าจะแล้วเสร็จกลางเดือน มิ.ย.65 ขณะที่คันที่ 3 จะแล้วเสร็จต้นเดือน ก.ค.นี้ และคันที่ 4 จะแล้วเสร็จต้นเดือน ส.ค.นี้ จากนั้นภายในเดือน ส.ค. จะส่งมอบให้แก่ฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ รฟท. เพื่อนำรถไฟดีเซลราง Kiha 183 ทั้ง 4 คัน ไปเปิดให้บริการเดินรถ โดยในระยะแรกจะเป็นรูปแบบของรถท่องเที่ยว เดินรถแบบเช้าไปเย็นกลับ ในระยะทางไม่เกิน 300 กิโลเมตร (กม.)

รายงานข่าวแจ้งต่อว่า งานทำสีภายนอกตัวรถ ซึ่งทำการพ่นสีในห้องอบ ผลงานออกมาเป็นที่น่าพอใจ โดยในการดำเนินงานได้พยายามทำให้สีออกมามีความสวยงามที่สุด ซึ่งโทนสี เน้นสีขาว-ม่วง-เขียวอ่อน และน้ำตาล โดยเป็นสีดั้งเดิม เพื่อคงความเป็นญี่ปุ่น ให้ผู้ที่ชื่นชอบรถไฟญี่ปุ่น ได้สัมผัสกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ขณะที่ตัวอักษรต่างๆ บนป้ายต่างๆ ที่ชำรุด ได้มีการลอกแบบจากของเดิม และทำใหม่ทั้งหมด อีกทั้งยังคงใช้ภาษาญี่ปุ่นเดิม กับภาษาอังกฤษเป็นหลัก มีภาษาไทยแทรกบ้างในบางจุดที่สำคัญ อาทิ ภายในห้องน้ำ และจุดฉุกเฉินต่างๆ เป็นต้น 

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ขณะนี้ รฟท. ได้ว่าจ้างบริษัททำความสะอาด เพื่อทำความสะอาด และฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ภายในขบวนรถ โดยเฉพาะเบาะที่นั่ง เพื่อให้ผู้โดยสารเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย มีความมั่นใจ และปลอดภัยตลอดการเดินทาง เบื้องต้นในเดือน ก.ค. จะเริ่มทำความสะอาดรถทั้ง 4 คัน จากนั้นจะทดสอบเดินรถอีกครั้งไปยัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี, ลพบุรี หรือ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนเปิดให้บริการจริงในเดือน ส.ค.65 ทั้งนี้สำหรับแผนการเดินรถที่ชัดเจนว่าจะวิ่งให้บริการเส้นทางใดบ้างนั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาของฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ  

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับรถไฟดีเซลราง Kiha 183 เป็นรถที่ รฟท. ได้รับมอบจากบริษัท Hokkaido Railway Company (JR HOKKAIDO) ประเทศญี่ปุ่น เมื่อช่วงกลางเดือน ธ.ค.64 จำนวน 17 คัน โดยขณะนี้กำลังดำเนินการปรับปรุง 4 คัน ซึ่งต้นปี 66 จะเริ่มดำเนินการปรับปรุงอีก 4 คัน ส่วนที่เหลืออีก 9 คัน จะดำเนินการปรับปรุงในระยะถัดไป อย่างไรก็ตามในอนาคต รฟท. ยังมีแผนที่จะปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ เกียร์ และล้อรถไฟดังกล่าว เพื่อให้สามารถเดินรถได้ทั่วประเทศ ไม่ต้องจำกัดแค่เพียงระยะทางไป-กลับ ไม่เกิน 300 กม. ด้วย 

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า รถไฟ Kiha 183 ในกลุ่มเพจคนรักรถไฟ ต่างตั้งชื่อให้ว่า “ป้าหมู” เพราะรูปลักษณ์ด้านหน้าตัวรถมีลักษณะคล้ายหมู โดยเป็นขบวนรถที่ไม่ต้องใช้หัวรถจักร มีเครื่องยนต์ในตัว ทำความเร็วได้สูงสุด 100 กม./ชั่วโมง ซึ่งการนำรถไฟดังกล่าวมาให้บริการ จะช่วยสนับสนุนการเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟ พร้อมทั้งยังกระตุ้นรายได้ให้กับท้องถิ่น ฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามรถไฟดีเซลราง Kiha 183 แบ่งเป็น 4 ขบวน ขบวนละ 4 ตู้ อีก 1 ตู้เป็นรถสำรอง ใน 1 ขบวนมี 216 ที่นั่ง มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวครบครัน ทั้งเครื่องปรับอากาศเย็นสบาย เบาะที่นั่งปรับเอนได้ และมีห้องน้ำระบบปิด. 

ขอบคุณภาพประกอบจากแหล่งข่าว