นับเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ตอบรับแต่ไม่ปฏิเสธกระแสข่าวลือเตรียมนั่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นำทัพสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า

พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันหลักการนาทีนี้ทำงานเหมือนเดิม และทุกอย่างกำลังเดินหน้าไปได้ด้วยดี ดังนั้นคงตอบได้แค่นี้ เพราะไม่รู้ข่าวนี้มาจากไหนยังไม่ทราบ

“ผมยังไม่คิดไปไกลขนาดนั้น คิดแค่ว่าจะทำยังไง ประคับประคองรัฐบาลนี้ให้ครบวาระ ในวันหน้าก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับประชาชนนะจ๊ะ”

สอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของ “พี่ใหญ่” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่เดินเครื่องเรียกประชุมวอร์รูม แกนนำพรรคระดับรัฐมนตรี กรรมการบริหารพรรคบางส่วน ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด เพื่อวางยุทธศาสตร์สู้ศึกเลือกตั้งสมัยหน้า

‘บิ๊กป้อม’ แบ่งหน้าที่รับผิดชอบให้กับแกนนำพรรคกำกับดูแลแต่ละภาค กำชับให้แต่ละพื้นที่อบรมผู้สมัคร ส.ส. เตรียมการกระบวนการหาเสียง นโยบาย และให้แต่ละเขตตั้งวอร์รูม โดยมีวอร์รูมใหญ่ที่พรรค มี พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าวอร์รูมใหญ่

ขณะที่ “พี่กลาง” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ซุ่มทำงานสไตล์ที่ถนัด ใช้ความนิ่งสงบ สยบความเคลื่อนไหว กระชับอำนาจกลไกท้องถิ่น ใช้เป็นฟันเฟืองเร่งขับเคลื่อนงาน สนองนโยบายรัฐบาลประยุทธ์ เตรียมพร้อมเลือกตั้งครั้งหน้า

ส่วน “เสกสกล อัตถาวงศ์” องครักษ์พิทักษ์นายกรัฐมนตรี เคลื่อนไหวกลับมายื่นใบสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ แบบตลอดชีพ พร้อมจ่ายค่าสมัคร 2,000 บาท พร้อมประกาศจุดยืน “อนาคตทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ที่ไหน ผมก็อยู่ที่นั่น ให้ดูตรงนี้”

ถอดรหัสสัญญาณความถี่สูง ฟันธงล่วงหน้า “พี่น้อง 3 ป.” กำลังวางแผนปูทางอนาคตการเมือง ก่อนรัฐนาวาครบวาระต้นปี 2566

กลุ่ม 3 ป. รู้ดี หากอำนาจการเมืองหลุดมือนาทีนี้ มีโอกาสสูงมากถึงมากที่สุด ที่จะถูกฝ่ายตรงข้ามคิดบัญชีแค้น เนื่องด้วยตลอด 8 ปี ใช้อำนาจพิเศษไล่ทุบ ไล่ต้อน ฝ่ายตรงข้ามจนแทบไม่เหลือที่ยืนในสังคม

อนาคตของกลุ่ม 3 ป. ถูกบีบให้เหลือ 2 ตัวเลือกคือ (1) ออกมานั่งหน้าฉากสู้ศึกสมรภูมิเลือกตั้งเหมือนเดิม หรือ (2) ไต่ลงหลังเสือเข้าไปหลบหลังฉาก นั่งกดปุ่มบัญชาการรบ ผ่านสารพัดกลไกที่วางไว้ตลอด 8 ปี

พี่น้อง 3 ป. ที่ประกาศร่วมเป็นร่วมตาย ไม่มีทิ้งกัน รอเพียงข้อสรุปเรื่องวาระ 8 ปี การดำรงตำแหน่งนายกฯ ของน้องเล็กที่ฝ่ายค้านล็อกเป้าช่วง ก.ค.-ส.ค. ใช้ช่องรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 เข้าชื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญ

(1) หากศาลรัฐธรรมนูญ ยึดหลักตีความในทางที่เป็นคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จะได้ต่อท่ออำนาจ ลากยาวนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ได้ถึงปี 2568 หรือปี 2570

(2) ทว่าหากศาลรัฐธรรมนูญ ตีความแบบเคร่งครัดตามลายลักษณ์อักษร พล.อ.ประยุทธ์ จะครบวาระ 8 ปี วันที่ 23 ส.ค. 2565

โจทย์ใหญ่พี่น้อง 3 ป. ตอนนี้ ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาฐานอำนาจ ไม่ให้ถูกตามคิดบัญชีแค้น เช็กบิลเอาคืน!.

ขุนไพร พิเคราะห์การเมือง