เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ภายหลังเจ้าหน้าที่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย และตำรวจไต้หวัน ขอความร่วมมือมายังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เพื่อขอให้ติดตามจับกุม นายสันติ อายุ 35 ปี ผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรม 2 สามีภรรยา รวมลูกในท้อง ทิ้งท้ายรถบีเอ็มดับเบิลยู ก่อนหลบหนีกลับมายังประเทศไทยนั้น ล่าสุด พนักงานสอบสวน บก.ป. ได้นำสำนวนคดีดังกล่าวเดินทางไปยื่นขออนุมัติต่อศาลอาญาเพื่อออกหมายจับนายสันติ ในคดีความผิดต่อชีวิตตามกฏหมายอาญามาตรา 8 (ก) “ผู้ใดกระทำความผิดนอกราชอาณาจักร และผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนไทย และรัฐบาลแห่งประเทศที่ความผิดได้เกิดขึ้น หรือผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษฯ”

หมายจับมือฆ่า 4 ศพ ผัวเมียคนไทย-ลูกแฝดในท้อง ที่ไต้หวัน ตร.เร่งล่า!

ล่าสุดพ่อของนายสันติ อายุ 63 ปี ผู้ต้องสงสัยฆ่า 4 ศพ ซึ่งอาศัยอยู่ที่ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ได้พยายามใช้วีแชทติดต่อลูกชายแต่ไม่มีผู้รับสาย รวมถึงโทรฯ หานายสันติหลายครั้ง แต่นายสันติไม่ยอมรับสาย แต่โทรศัพท์เปิดอยู่ตลอดเวลา โดยพ่อของนายสันติ เปิดเผยว่า ครอบครัวตกใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะสองครอบครัวสนิทกันมาก หลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ลูกชายเดินทางกลับไทยและส่งข้อความเสียงมาถึงแม่ในวันที่ 9 มิ.ย. ว่าอยู่สนามบินที่กรุงเทพฯ แล้ว และจองตั๋วต่อไปเชียงใหม่ ก่อนจะเดินทางมาบ้านที่ อ.สันทราย ขับรถเอสยูวียี่ห้อวอลโว่กลับบ้านเกิด ที่บ้านใหม่หนองบัว ใน อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่

ซึ่งตอนนั้นครอบครัวยังไม่ทราบว่าลูกชายก่อเหตุขึ้นและหลบหนีมา จากนั้นลูกชายก็ได้นอนพักที่บ้าน 1 คืน พอเช้าตรู่ก็ขี่รถ จยย. ไปส่งลูกที่โรงเรียนภาษาจีน ก่อนที่ในค่ำวันที่ 10 มิ.ย. จะหายตัวไปและติดต่อไม่ได้ และไม่ได้บอกอะไรว่าไปไหนยังไง โดยส่วนตัวไม่เชื่อว่าลูกชายจะลงมือเพียงคนเดียว หรืออาจจะถูกกดดันให้ลงมือทำ จึงวอนให้ลูกชายออกมามอบตัวและพูดความจริงทั้งหมด และยอมรับว่ากังวล เกรงลูกชายจะได้รับโทษหนักที่ไต้หวัน แต่ยังอยากให้ลูกชายออกมาพูดความจริง

ด้าน พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่า ในเรื่องที่เกิดขึ้น ทางพี่ชายของหญิงผู้ตายได้เข้าร้องเรียนกับทางตำรวจภูธรภาค 5 ทางเราก็ได้ให้พนักงานสอบสวน และรวมเรื่องร้องทุกข์ให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ซึ่งเป็นเจ้าภาพในคดีนี้ และได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาเรียบร้อยแล้ว ในส่วนของตำรวจภาค 5 ก็ได้กำชับให้ชุดสืบสวนภาคและท้องที่เข้าติดตามล่าตัวผู้ต้องหา ซึ่งเชื่อว่าจะยังอยู่ในประเทศไทย แต่ในส่วนที่คาดว่าจะหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้วนั้น เราก็ไม่ทิ้ง ได้มีการประสานหน่วยงานในประเทศเพื่อนบ้านให้เร่งล่าตัวอีกทางหนึ่งด้วย ตอนนี้ก็กำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามจับกุมตัวมาให้ได้โดยเร็วที่สุด