จากกรณีนางชวร ซ่อนกลิ่น อายุ 67 ปี อยู่เลขที่ 26/1 หมู่ 14 บ้านละเบิก ต.ปราสาท อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ถูกภรรยาและพี่สาวกำนันในพื้นที่ เข้าไปทำกินบนที่ดินของตัวเองจำนวน 6 ไร่ จากที่ดิน 15 ไร่ แต่ไม่ยอมออกจากพื้นที่ ทั้งที่มีการรังวัดที่ดินแล้วชัดเจน แต่กลับเจรจาไม่สำเร็จ เพราะผู้บุกรุกไม่ยอมออกจากพื้นที่ พร้อมกับท้า แต่ป้ามีฐานะยากจน ไม่มีปัญญาจะหาเงินไปจ้างทนายไปฟ้องได้ ร้องต่อศูนย์ดำรงธรรม เรื่องก็เงียบ สุดท้ายต้องมาฟ้องสื่อให้ช่วยเหลือ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. นายพลกฤษ เนาว์ประโคน อดีตประธานสภาทนายความจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกมาระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า เท่าที่ทราบ ที่ดินของป้าเป็นที่ดินโฉนดถูกต้องตามกฎหมาย ถ้ามีคนอื่นเข้ามาเข้าครอบครอง โดยที่ป้าไม่ยินยอม ไม่อนุญาต หรือเข้ามาครอบครอบโดยพลการ ป้าต้องต้องรีบดำเนินคดี หรือฟ้องขับไล่ รวมถึงบริวาร ถ้ามีสิ่งปลูกสร้างต้องรื้อถอนไปด้วย ดังนั้นป้าต้องเข้ามาพบทนายความ ทีมทนายที่บุรีรัมย์ พร้อมให้ความช่วยเหลือ หรือยื่นคำร้องถึงสภาทนายความ โดยเข้ามายื่นหนังสือร้องมาที่สภาทนายความจะเข้าไปช่วยเหลือโดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย

ยายวัย67ร่ำไห้ถูกเมียกำนันแอบทำนา รังวัดแล้วไม่ยอมคืนอ้างขอคิดดูก่อน

อดีตประธานสภาทนายความยัง กล่าวด้วยว่า กรณีดังกล่าวในสังคมปัจจุบันเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือปล่อยปละละเลย จึงอยากจะฝากเตือนประชาชนทั่วไป ถ้ามีเหตุเกิดขึ้นไม่ควรปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไป เพราะอาจจะเสียเปรียบได้