เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ที่ สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ประสงค์ อินเสมียน พนักงานสอบสวน สภ.พระประแดง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ ในข้อหาหมิ่นประมาท เรื่อง ทนายเดชา ไปให้สัมภาษณ์ กล่าวหาว่า ตนหลอกลวงให้แม่แตงโมแต่งตั้งตัวเองเป็นทนาย แต่ตนเองไม่ได้เป็นทนาย แต่มีทีมงานเป็นทนาย

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า เดินทางมาแจ้งข้อกล่าวหาหมิ่นประมาทกับทนายเดชา ในเรื่องที่กล่าวหาว่าตนไปหลอกลวงคุณแม่ภนิดา หรือแม่น้องแตงโม ที่ทางเราได้รับมอบอำนาจโดยชอบ แต่มีทนายเดชามาพูดลอยๆ แล้วกล่าวอ้างหาว่าคุณแม่มาพูด หรือพูดโดยที่ไม่รับผิดชอบ ซึ่งคดีวันนี้เป็นคดีที่ 5 จากการที่เราได้มีการร้องฟ้องศาลเอง รวมถึงมีการแจ้งความตามโรงพักต่างๆ ซึ่งในสัปดาห์หน้า เราจะต้องไล่ดำเนินคดีทั้งหมด ที่เขาพูดมาตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าน่าจะไม่ต่ำกว่า 15 คดี รอรับหมายเรียกได้เลย รับรองว่าทั่วไทย ซึ่งเราก็จะให้มีการแจ้งความทั่วประเทศ ลองคิดเอาแล้วกัน นอกจากนี้ตนเองอยากจะเรียนพี่ๆ สื่อมวลชนตรงๆ ว่า เราไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกัน

นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า เมื่อคืนนี้มีช่องทีวีพูล ได้มีไลฟ์สดให้สัมภาษณ์โดยมีพาดพิงถึงครอบครัวตน ซึ่งคนที่สัมภาษณ์ก็ได้มีการหัวเราะเยาะเย้ย ฉะนั้นแล้วเขาต้องเป็นผู้ต้องหาร่วม การอยากได้เรตติ้งของพี่ๆ สื่อมวลชนต้องอยู่ภายในกรอบของกฎหมาย แต่ไม่ใช่มาละเมิดลูกเมียผม จะพูดถึงผมไม่ว่า แต่การที่ละเมิดลูกเมียผมถือว่าใช้ไม่ได้ อันนี้ถือว่าคุณเป็นผู้สื่อข่าวที่ไม่มีจรรยาบรรณ เนื่องจากคุณต้องการเรตติ้งอย่างเดียวโดยไม่คำนึงถึงสิทธิส่วนบุคคลของครอบครัวผม ซึ่งลูกผมดูรายการเมื่อคืนก็ไม่สบายใจ นอกจากนี้ภรรยาผมก็ไม่สบายใจ

“โดยเมื่อคืนนี้มีการสัมภาษณ์ไลฟ์สดไปทั่วประเทศและทั่วโลก ผมถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิ เป็นอย่างมากของสื่อมวลชน ฉะนั้นผมไม่อยากฟ้องสื่อมวลชน ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีฟ้องสื่อมวลชนมาแล้ว ในคดีที่มีการพาดพิงแบบนี้ โดยเรื่องอยู่ระหว่างอัยการ ซึ่งคดีนี้ก็เหมือนกัน ผมก็ต้องขอโทษทีวีพูลด้วย ผมจำเป็นต้องทำ เพราะเสียหายการที่มากล่าวหาเมียผมกับลูกแบบนี้ มันเป็นสิ่งที่เรารับไม่ได้ คือถ้ามีอะไรก็มาคุยกับผมลงกับผม แต่อย่าไปลงกับครอบครัวผม ซึ่งเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ดังนั้นก็ต้องแจ้งนักข่าวไว้เลยว่า ถ้าทำอีกนักข่าวช่องไหนก็แล้วแต่ ถ้าต้องการเรตติ้ง คุณก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่คุณทำด้วย จะบังคับใช้กฎหมายเท่าที่ผมทำได้ตามกฎหมาย” นายอัจฉริยะ กล่าว

นายอัจฉริยะ กล่าวต่ออีกว่า ไม่รับคำขอโทษ ต้องกราบเท้าอย่างเดียว ในเมื่อเขาบอกว่าตำรวจกลัวทั้งประเทศ อันนี้ก็เป็นการดูถูกเหยียดหยามตำรวจทั้งประเทศ เพราะเขาบอกเองว่าถ้าใครซื้อเสื้อเขาไปใส่ ตำรวจทางโรงพักเกรงใจเขาหมด ผมเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า ท่าน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จะปล่อยให้โรงพักต่างๆ ทั่วประเทศ เป็นแบบที่เขาพูดไหม.