สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ว่านายกรัฐมนตรีมุสตาฟา อัล-คาดิมี ผู้นำอิรัก เยือนกรุงเตหะรานอย่างเป็นทางการ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติ จากประธานาธิบดีอีบราอิม ไรซี ผู้นำอิหร่าน

ประธานาธิบดีอีบราฮิม ไรซี ผู้นำอิหร่าน แถลงร่วมกับนายกรัฐมนตรีมุสตาฟา อัล-คาดิมี ผู้นำอิรัก ที่กรุงเตหะราน


การเยือนกรุงเตหะรานของอัล-คาดิมี เกิดขึ้นเพียงวันเดียว หลังผู้นำอิรักเยือนเมืองเจดดาห์ เพื่อเข้าเฝ้าฯ เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ซึ่งทรงถือเป็น “ผู้ปกครองในทางพฤตินัย” แห่งราชอาณาจักร


ขณะที่ผู้นำอิหร่าน เลี่ยงกล่าวถึงภารกิจของนายกรัฐมนตรีอิรักในซาอุดีอาระเบีย แต่หยิบยกประเด็นการฟื้นฟูความสัมพันธ์ “โดยรวมในระดับภูมิภาค” อย่างไรก็ตาม ไรซีกล่าวถึง “การสถาปนาความสัมพันธ์ระดับปกติ” ระหว่างหลายประเทศในตะวันออกกลาง กับ “รัฐไซออนิสต์” ที่หมายถึงอิสราเอล และการเข้ามาของ “ต่างชาติ” ไม่มีทางก่อให้เกิดผลดีต่อภูมิภาค และไม่ช่วยคลี่คลายปัญหาใด

เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ทรงต้อนรับนายกรัฐมนตรีมุสตาฟา อัล-คาดิมี ผู้นำอิรัก ที่เมืองเจดดาห์


อนึ่ง ซาอุดีอาระเบียและอิหร่านยุติความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อปี 2559 จากกรณีรัฐบาลริยาดประหารชีวิต “ชีค นิมร์ อัล-นิมร์” นักการศาสนาชาวชีอะห์ ซึ่งอยู่เบื้องหลังการประท้วงต่อต้านรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ที่รุนแรงจนนำไปสู่การเกิดเหตุเผาทำลายสถานเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบีย ประจำกรุงเตหะราน

หลังจากนั้น อิรักทำหน้าที่คนกลางเจรจาประสานรอยร้าวระหว่างทั้งสองประเทศ ซึ่งการเจรจาครั้งที่ 5 และเป็นครั้งล่าสุด เกิดขึ้นเมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา แต่ความคืบหน้าเป็นรูปธรรมที่เกิดขึ้น มีเพียงการที่อิหร่านกลับมาเปิดสำนักงานคณะผู้แทนถาวร ประจำองค์การรัฐอิสลาม (โอไอซี) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ซาอุดีอาระเบีย.

เครดิตภาพ : REUTERS