กลายเป็นประเด็นที่หลายคนสนใจหนักมากทันทีหลังล่าสุดพิธีกรดัง แอนนาวรินทร วัตรสังข์ ที่ตอนนี้ได้รับความสนใจจากแฟนๆติดตามเรื่องราวของเธออยู่ตลอดได้ออกมาอัพเดทรูปของตนเองและเพื่อนที่ได้จัดงานแถลงข่าวขึ้นเพื่อประกาศลาออกจากวงการบันเทิง โดยแอนนามีการอัพเดทรูปนี้ พร้อมข้อความเล่าว่า

“อำลาหน้าจอทีวี จบบทบาทพิธีกรแล้วตั้งแต่วันนี้ รักและขอบคุณช่อง 8 มากๆ จากนี้ขอตามความฝันทำงานในต่างประเทศ เตรียมพาลูก พาแมวทั้งหมด ไป USA นะคะ รอคดีจบ ส่วนการขายของจะนำเข้าสินค้าจาก USA เพื่อขยายฐานตลาดลูกค้าเดิมให้กว้างขึ้นค่ะ” จากนั้นไม่นานแฟนๆที่เห็นข่าวก็พากันมากดไลค์พร้อมมอบกำลังใจให้เธอ บอกให้ไปดีและโชคดี บ้างก็บอกว่าทำไมต้องอำลา บ้างก็บอกว่าไม่อยากให้ไป บ้างก็บอกว่าโอเคใช่ไหม เป็นต้น

โดยบางช่วงบางตอนของการแถลงข่าวที่สาวแอนนาพูดในวันนี้ 30 มิ.ย. ได้มีการเล่าว่า “เอาจริงๆสาเหตุที่วันนี้ออกมาแถลงข่าว เพราะหลังกลับจากต่างประเทศ ก็มีประเด็นรวบคาสนามบิน จากนั้นก็ไม่เคยพูดอะไรอีก นานมาก ซึ่งที่ผ่านมาก็มีประเด็นพาดพิงมาหลายเรื่อง ประกาศวันนี้ด้วยว่าจะขอออกจากวงการบันเทิง เพราะว่าไม่อยากอยู่ตรงนี้ อยากออกไปใช้ชีวิตส่วนตัว อยากทำธุรกิจอื่นๆ ที่ไม่ต้องมาให้คนวิจารณ์ ได้ทบทวนดีแล้ว ใจเราไม่ไหวในการรับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ก่อนหน้านี้ได้คุยกับผู้ใหญ่ทางช่อง 8 ว่าเราอยากยุติบทบาทการเป็นพิธีกร ตอนแรกคุยกันไว้ว่าจะเป็นเดือน ก.ย. ผู้ใหญ่ได้ลงมติแล้วว่าพรุ่งนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่แอนนาจัดรายการของรายการทั้งหมด ถามว่าออกเองใช่ไหม แอนนาต้องขอบคุณผู้ใหญ่มากๆ เพราะว่าเรายังมั่นใจว่าเราคงโดนไล่ออกตั้งแต่วันแรกที่เป็นข่าวด้วยซ้ำ เพราะว่ามันเป็นคดีอาญา แต่ผู้ใหญ่เข้าใจ เราแสดงหลักฐานความบริสุทธิ์ของตัวเอง ไม่ว่าจะทั้งตำรวจหรือทางผู้ใหญ่ก็มองว่าไม่เป็นไร ในส่วนตัวเอง ที่ตัดสินใจออกจากวงการเพราะว่าตั้งแต่เกิดเรื่องเพื่อนแตงโม นิดา เรารู้สึกดาวน์ ในหลายๆ วันที่เปิดข่าวขึ้นมาอ่าน รู้สึกว่ากำลังใจไม่ได้ แล้วแตงโมเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่า แอนนาเธอจัดรายการแบบนี้เธอไม่ดังหรอก เพราะว่าเธอไม่กล้าขยี้ จัดไปก็ไม่มีอนาคต เราก็เลยคิดว่ามันเป็นจริงอย่างที่เขาว่า เราก็ไปทำในสิ่งที่เราถนัด หรือว่าอย่างอื่นที่เราทำได้”

“ส่วนบังแจ็คคือตอนที่แอนนาบินไปอเมริกา เขาโทรฯมา แล้วตอนนั้นเป็นช่วงคาบเกี่ยวมันมีเรื่องของโทรศัพท์มือถือ แอนนาคุยกับแม่ แล้วแม่บอกว่าไว้ใจบังแจ็ค แม่บอกว่าบังแจ็คเขาเป็นคนดี เราก็ไม่กล้าค้านเยอะเพราะว่าเราไม่ได้รู้จักบังแจ็คดีพอ เราไม่กล้าพูดว่าเขาดีหรือไม่ดี เราเลยแค่รับฟัง ถามว่าแอนนารู้ก่อนไหมว่ามือถืออยู่กับบังแจ็ค แอนนาไม่รู้ แต่เดาได้ไม่ยาก เพราะว่าตอนนั้นแม่พูดว่าคนที่แม่ไว้ใจที่สุดคือบังแจ็ค เขาชวนกินข้าว แต่เราไม่อยากมีประเด็นอะไรเพิ่มออกมาอีกแล้ว แล้วกับบังแจ็คเคยคุยกับเขาที่อเมริกา หลังจากนั้นก็ไม่เคยคุยกับเขาอีกเลย กับพี่อัจ ก็ไม่เคยคุย เราไม่เคยมองสิ่งที่พี่อัจทำไม่ดี เรารู้สึกขอบคุณเขาด้วยซ้ำไป คือเรารู้สึกว่าเขาสู้จริงๆ เราก็ได้ประกาศตัวเองว่าขอหยุดทุกอย่าง อย่างที่บอกทำก็หิวแสง ไม่ทำก็บอกว่าไม่ช่วยเพื่อน ตอนนี้เราก็ทำในสิ่งที่เราทำได้คุยกับคุณแม่ให้คุณแม่หายเครียด หรือตัวกระติกเอง แอนนาให้พี่เฮเลนโทรฯหากระติก บอกว่าถ้าลูกของกระติกต้องการความช่วยเหลืออะไรทักมาหาเราได้นะ”

ขอขอบคุณภาพประกอบจากเฟซบุ๊ก แอนนา