ในช่วงที่ราคาพลังงานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน ทำให้หลายคนรวมถึงภาคธุรกิจได้หาหนทางที่จะประหยัดพลังงาน เพื่อลดรายจ่าย เพิ่มประสิทธิภาพให้กับตนเองและองค์กร โดยช่วงที่ผ่านมาได้มีหลากหลายองค์กรออกมาแนะนำว่าทำอย่างไร เช่นเดียวกับ “ธนาคารกรุงเทพ” ที่มาบอกวิธีประหยัดพลังงานให้กับองค์กร ซึ่งถือเป็นการอนุรักษ์พลังงานอย่างหนึ่ง

นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การอนุรักษ์พลังงานที่ธนาคารได้ดำเนินการปรับปรุงมาอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่สำนักงานใหญ่ ที่ได้ปรับเปลี่ยนช่วงเวลาการเดินเครื่องส่งลมเย็น รวมถึงปรับเปลี่ยนขั้นตอนและช่วงเวลาการเดินเครื่องผลิตน้ำเย็น ให้สอดคล้องกับช่วงเวลาการใช้พื้นที่ของพนักงาน ทำให้ปี 2564 สามารถลดการใช้ไฟฟ้าลงไปได้ประมาณ 8.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์

ส่วนพื้นที่สำนักงานในอาคารตรีทิพย์ ธนาคารได้ปรับปรุงระบบผลิตน้ำเย็นเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2564 ส่งผลให้ปริมาณการใช้พลังงานในพื้นที่ดังกล่าวลดลงไปประมาณ 8.15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

ขณะที่พื้นที่อาคาร 3 ธนาคารได้เริ่มทดสอบติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมจากส่วนกลางเพื่อควบคุมเครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วน เพื่อลดการทำงานของคอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศแต่ละตัว เบื้องต้นที่ทดสอบกับเครื่องปรับอากาศจำนวน 2 ตัว พบว่า ได้ผลค่อนข้างน่าพอใจ ช่วยลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าได้ประมาณ 10% ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการขยายผลต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ธนาคารยังอยู่ระหว่างพิจารณาติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) เพื่อผลิตไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งบนหลังคาสำหรับใช้ในอาคารสาขาขนาดใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการติดตั้งในต้นปี 2566

“นโยบายเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในมิติด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งที่ธนาคารนำมาปรับใช้ในกระบวนการทำงานจริง และได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง บางเรื่องเป็นการปรับเปลี่ยนเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ปรับช่วงเวลาการใช้พลังงาน ไปจนถึงการปรับปรุงอุปกรณ์ให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น อาจต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มขึ้น แต่ธนาคารเชื่อมั่นว่าจะเป็นประโยชน์ในระยะยาวทั้งด้านการประหยัดค่าใช้จ่ายโดยรวม และที่สำคัญจะช่วยลดการใช้พลังงาน หรือเลือกใช้พลังงานทางเลือกที่ไม่สร้างมลพิษ ซึ่งเป็นเป้าหมายหลัก เพราะเราต้องการเป็น “เพื่อนคู่คิด” กับลูกค้าและสังคมไทย ที่จะร่วมกันขับเคลื่อนประเทศสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต”