แหล่งข่าวระดับสูง เปิดเผยว่า สำหรับสาเหตุที่ 6 ส.ส.สมุทรปราการ ลงมติคว่ำ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จ.สมุทรปราการ ซึ่งมี ส.ส. รวม น.ส.ไพลิน รวมเป็น 7 คน ปรากฏว่า ไม่ได้รับการเหลียวแลใดๆ จาก พล.อ.อนุพงษ์ ในช่วงเวลาที่ผ่านมาแม้แต่ครั้งเดียว ไม่เคยได้รับงบประมาณในการสนับสนุนและพัฒนาจังหวัด ทั้งๆ ที่มีสนามบินสุวรรณภูมิ มีนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) กรณีดังกล่าว จึงเป็นการกระตุกหนวดเสือ

“กรณี พล.อ.อนุพงษ์ นั้น ที่ผ่านมา ไม่เคยทำอะไรให้คนปากน้ำ และ ส.ส.ขออะไรก็ไม่เคยได้” แหล่งข่าว ระบุ

ส่วนกรณีที่โหวตคว่ำนายสุชาติ รมว.แรงงาน นั้น ตอนเป็น ส.ส.ชลบุรี ก่อนหน้านี้ไม่ได้มี ส.ส.ในมือมากเท่า จ.สมุทรปราการ แต่ก็ปาดหน้าแย่งเก้าอี้รัฐมนตรีไป รวมถึงไม่ได้ให้การสนับสนุนอะไรกับ ส.ส.กลุ่มสมุทรปราการ มีเพียง น.ส.ไพลิน ที่ในช่วงหลังสนิทสนมกับนายสุชาติ ซึ่งที่ผ่านมา ส.ส. 7 คน ควรจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีด้วยซ้ำ แต่ปรากฏว่า “หัวหน้ากลุ่มปากน้ำ” อย่างนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ก็กลืนเลือด ไม่ได้เรียกร้องใดๆ แม้กระทั่งล่าสุด จะมี “บิ๊กเนม” ในพรรคพลังประชารัฐบางคน ส่งคนมาลงสมัครแข่งขันการเมืองในระดับท้องถิ่น รวมถึงส่งคนลงแข่งชิงตำแหน่ง นายก อบจ. กับ น.ส.นันทิดา แก้วบัวสาย โดยสาเหตุหลักๆ คือการการแข่งขันตำแหน่งรัฐมนตรี ระหว่าง “บ้านใหญ่ปากน้ำ” กับ “ทีมงานบ้านใหญ่ ชลบุรี” ซึ่งทำให้เจ็บใจมาถึง 2 ครั้ง รวมถึงมีการดึงคนของนายชนม์สวัสดิ์ ไปทำงานให้ตำแหน่งต่างๆ จนสร้างความไม่พอใจให้นายชนม์สวัสดิ์ เป็นอย่างมาก

นอกจากนั้นยังมีปมขุ่นเคืองตั้งแต่การส่งผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ ที่วางตัวนายต่อศักดิ์ อัศวเหม ลงสมัครในเขตของ น.ส.ไพลิน ที่ได้รับการสนับสนุนจาก พล.อ.กนิษฐ์ ชาญปรีชญา ส.ว. ซึ่งมีความใกล้ชิดกับนายสุชาติ ช่วยผลักดันจนได้ลงสมัครเขตนี้ในที่สุด โดยนายต่อศักดิ์ ต้องไปลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับ 22 และเพิ่งได้เลื่อนขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่เมื่อช่วงปลายปี 64