โดยล่าสุด นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะทำงานประธานรัฐสภา ออกมาระบุถึงไทม์ไลน์ว่า “ถ้าร่าง พ.ร.ป.ฉบับนี้พิจารณาไม่แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 ส.ค. นี้ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 132 กำหนดให้กลับไปใช้ร่างของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เสนอมา คือสูตรหาร 100 ดังนั้น ในนามประธานรัฐสภา ซึ่งได้พูดเสมอว่า รัฐสภารับใช้สภาและพี่น้องประชาชน จึงกำหนดให้มีการประชุมร่วมรัฐสภาอีกครั้งในวันที่ 15 ส.ค. นี้ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ว่ารัฐสภาภายใต้การนำของประธานรัฐสภา ได้พยายามอย่างยิ่งที่จะพิจารณากฎหมายให้แล้วเสร็จ ส่วนองค์ประชุมหากไม่ครบอีก สมาชิกจำเป็นต้องรับผิดชอบการกระทำ และตอบคำถามสังคม”

ถือเป็นความพยายามของ “เสาหลัก” อย่าง นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่จะนัดประชุมรัฐสภา เฮือกสุดท้าย ก่อนถึงเส้นตาย ตามที่ฝ่ายกฎหมายของรัฐสภาได้ตรวจสอบข้อบังคับการประชุมแล้วว่า กรอบ 180 วัน จะสิ้นสุดเที่ยงคืนของวันที่ 15 ส.ค. นี้  แม้จะคาดการณ์ว่า อาจต้องเจอเหตุการณ์ซ้ำรอย “ล่มสภา” อีกครั้ง!!

เพราะตอนนี้ “ผู้มีบารมี (ตัวจริง)” ที่มีเสียง ส.ส. ส.ว.ในมือเกินกว่าครึ่งหนึ่งของสภาสูง ได้ประกาศเดินหน้า สูตรหาร 100 แล้ว พิสูจน์ได้จาก “ฮัลโหลมรณะ” ที่โทรฯ สายตรงหาลูกพรรคพลังประชารัฐ เรียงตัวให้ออกจากห้องประชุมสภา ไม่ให้อยู่เป็นองค์ประชุมและไม่ให้พิจารณาร่าง พ.ร.ป.ฉบับนี้ อย่าง เลือดเย็น

ตรงนี้ยิ่งทำให้เห็นถึงภาพความขัดแย้งของ “2 ป.” ระหว่าง น้องเล็ก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขณะที่ พี่ใหญ่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่รอยปริร้าวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเริ่มชัดเจนมาตั้งแต่ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในช่วงเดือน ก.ย. 64 จากเคส “กบฏธรรมนัส” จนเด้งฟ้าผ่าไล่ตะเพิด “กล่องดวงใจ” ของ พี่ใหญ่ พ้น ครม. แบบไม่ไยดี ตามมาด้วยศึกอภิปรายล่าสุดเดือน ก.ค. 65 ที่ “บิ๊กป้อม” ได้คะแนนสูงสุด ด้วยการยืมมือ “ครอบครัวธรรมนัส” มาโหวตเพิ่มคะแนนให้เพียงคนเดียว พร้อมๆ กับการลอยตัวพูดกลางที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า “ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการปฏิวัติ ช่วงปี 57 เป็น “บิ๊กตู่” เพียงคนเดียว”

ล่าสุดกับเกมล่มสภา โดย “บิ๊กตู่” ต้องการสูตร 500 ขณะที่ “บิ๊กป้อม” ต้องการสูตร 100 มาตั้งแต่แรก ถึงแม้จะกลับไป กลับมา จนสุดท้ายมา ปิดประตูตอกฝาโลง สูตรหาร 500 ไปแล้ว 99.99% จึงทำให้ข่าวลือก่อนหน้านี้ “ดีลลับดูไบ” กลับมากระหึ่มอีกครั้งระหว่าง “นายกฯ ดูไบ” กับ “ป.คนที่ 4” เมื่อช่วงสงกรานต์ปี 65 ที่ผ่านมา อภิมหาดีล จับมือตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง ของ 2 พรรคใหญ่ โดยพรรคอันดับ 2 จะเป็น นายกรัฐมนตรี ที่ไม่ใช่ชื่อของ “ประยุทธ์”

วันนี้…วงในการเมืองมองข้ามชอตกันไปแล้วว่า ถ้าตามสูตรไม่ว่าจะหาร 100 หรือหาร 500 ก็ตาม ก็ต้องถามใจว่า จากนี้ไป “บิ๊กตู่” จะอยู่ตรงไหน แล้วถ้าเคาะออกมาเป็น สูตรหาร 500 “บิ๊กตู่” จะยังอยู่กับ “บิ๊กป้อม” หรือจะแยกออกมาสร้างดาวคนละดวง? หรือจะยอม “กลืนเลือด” ด้วยความคิดที่ว่า อยู่ด้วยกัน…ก็ต้องไปด้วยกัน??